บอย สลัม สารภาพแล้วหมดเปลือก เปิดพฤติการณ์ บอย  คนส่งกระเป๋าพกคีมตัดเหล็กให้เสี่ยแป้งตัดโซ่คืนแรก แต่ไม่สำเร็จ เบื้องต้นเจ้าตัว ยอมรับสารภาพ

บอย สลัม สารภาพแล้วหมดเปลือก เปิดพฤติการณ์ บอย คนส่งกระเป๋าพกคีมตัดเหล็กให้เสี่ยแป้งตัดโซ่คืนแรก แต่ไม่สำเร็จ เบื้องต้นเจ้าตัว ยอมรับสารภาพ

บอย สลัม ”สารภาพแล้วหมดเปลือก เปิดพฤติการณ์ “ บอย ” คนส่งกระเป๋าพกคีมตัดเหล็กให้เสี่ยแป้งตัดโซ่คืนแรก แต่ไม่สำเร็จ เบื้องต้นเจ้าตัว ยอมรับสารภาพ แรงจูงใจวางแผนช่วยเสี่ยแป้งหนี เพราะเสี่ยงแป้งบอกหากงานสำเร็จจะให้รถกระบะ4ประตู 1 คัน เลยร่วมขบวนการช่วยเหลือเสี่ยแป้งจนหนีสำเร็จ ภายหลังตำรวจชุดสืบสวนภาค 8 และตำรวจสืบสวนภาค 9และตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดนครศรีธรรมราช ระดมกำลังจับกุมนายคเณศ ทองประจง หรือ” บอย สลัม ” อายุ 28 ปี 1 ใน 5 ผู้ต้องหาที่ถูกศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชที่ร่วมขบวนการช่วยเหลือพา นช.เชาวลิต หรือ เสี่ยแป้ง หลบหนีออกจาก รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช เมื่อกลางดึกวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยล่าสุดจับกุมนายคเณศ หรือ บอย สลัม ได้ขณะพาแฟนสาวไปดูหนังเรื่องสัปเหรอ ที่โรงหนังห้างสรรพสิ้นค้าไดอาน่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากนายคเณศ หรือ บอย สลัม มีการโพสต์เช็คอินเฟสส่วนตัวชื่อ ” บอย สลัม ว่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จนทางตำรวจรู้จุด และนำหมายจับเข้าคุมตัวได้ในที่สุด ก่อนจะคุมตัวมาสอบสวนเบื้องต้นยังให้การภาคเสธว่า ขึ้นไปเยี่ยม นช.เชาวลิต หรือ เสี่ยแป้ง จริงเพราะเคยรู้จักในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ตอนถูกจำคุกคดียาเสพติดและยอมรับว่ามีความสนิทสนมกันกับเสี่ยแป้ง ตอนอยู่ในคุก แต่ไม่ได้มีส่วนช่วยเหลือ นช.เชาวลิต หลบหนีแต่อย่างใดนั้น ก่อนถูกตำรวจคุมตัวนายคเณศ หรือ บอย สลัม ส่งท้องที่เกิดเหตุ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เมื่อกลางดึกวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา

ล่าสุดเช้าวันนี้ (27ต.ค.) พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช รรท.ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พร้อมตำรวจชุดสืบสวนและพ.ต.อ.พิศิษฐ์ วิเศษวงศ์ ผกก.กก.สส.ภ.จ.นครศรีธรามราช นำตัวนายคเณศ หรือ บอย สลัม ออกจากห้องขังสอบสวนปากคำอย่างเคร่งเครียดอีกครั้ง โดยใช้เวลาสอบสวนนาน 1 ชม.ในที่สุดนายคเณศ หรือ บอย สลัม เปิดปากรับสารภาพจนหมดเปลือกว่า ร่วมขบวนการวางแผนช่วยเหลือ นช.เชาวลิต หรือ เสี่ยแป้ง หลบหนี รพ. โดยหลังสอบสวนปากคำเสร็จ จึงคุมตัวนายคเณศ หรือ บอย สลัม ไปชี้จุดที่เกิดเหตุต่างๆภายใน รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นจุดนัดพบกับ น.ส.วิลาวัลย์ หรือ ไหม และนายจักรี หรือ บิ๊ก บริเวณลานจอดรถหลัง รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ก่อนที่ตำรวจจะไปตรวจค้นบ้านพัก ซึ่งเป็นบ้านเช่าหลังหนึ่งริมถนนสายพัฒนาการคูขวาง ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งตำรวจตรวจยึดรถ จยย.เวสป้า สีขาว ที่ใช้ขับขี่เข้าใน รพ.มหาราช ในคืนเกิดเหตุ และค้นหาหลักฐานอื่นๆได้อีกจำนวนหนึ่งเป็นเสื้อผ้าที่สวมใส่วันก่อเหตุ กลับ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อสอบสวนปากคำขยายผลไปถึงกลุ่มผู้ต้องหาที่เหลือที่ร่วมขบวนการที่ยังหลบหนีอยู่ตอนนี้ โดยคาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 10 คน

ซึ่งมีรายงานข่าวแจ้งว่ามีคนมีสีคนหนึ่งเข้ามาอยู่ในขบวนการนี้ด้วย โดยตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายจับผู้ต้องหา ที่ยังเหลืออีกไม่ต่ำกว่า 10 คน นอกเหนือจากนายเชาวลิต หรือ เสี่ยแป้ง ทองด้วง,นายจักรี หรือ บิ๊ก แป้นน้อย,และนายจีรวุฒิ หรือ ปอย ชุมศรี ที่ถูกออกหมายจับก่อนหน้านี้ และถูกจับกุมได้แล้ว 3 คน คือ น.ส.วิลาวัลย์ หรือ ไหม คนเฝ้าไข้ ,น.ส.ยุวเรศ หรือ หม๋วย ผู้ว่าจ้าง น.ส.ไหม เฝ้าไข้เสี่ยแป้ง,และล่าสุดจับกุมนายคเณศ หรือ บอย สลัม เป็นรายที่ 3

อย่างไรก็ตามระหว่างที่ตำรวจนำตัวนายคเณศ หรือ บอย สลัม ชี้จุด ตรวจค้นบ้านพัก มี นางสมจิตร ทองประจง อายุ 55 ปี แม่นายคเณศ หรือ บอยสลัม เข้ามายืนดู

การทำแผนและชี้จุดในบ้านเช่าด้วย โดยนางสมจิตร แม่นายบอย ได้ต่อว่านายคเณศ ลูกชาย อยู่ตลอดเวลาว่า ทำไมชอบไปยุ่งเกี่ยวกับพวกนักโทษในเรือนจำสอนเท่าไหร่แล้วไม่จำเลย ทำให้นายคเณศ ถึงกับคอตกยืนฟังแม่ดุด่าตลอดเวลา แต่ไม่ได้เถียงโต้ตอบ โดยนางสมจิตร กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ยอมรับว่าลูกชายตนทำผิดจริง เพราะรู้นิสัยลูกชายคนนี้ดี เคยห้ามแล้วแต่ไม่ฟัง ขอให้ตำรวจดำเนินคดีไปตามกฏหมายให้เต็มที่ ตนเหนื่อยใจจริงๆกับลูกคนนี้ แต่ไม่อยากทางสื่อมวลชนแก้ข่าวให้หน่อยอย่าเอานามสกุลของลูกชายไปโยงกับนามสกุลของผู้คุมคนหนึ่งที่เหมือนกันและเข้าเวรในคืนวันเกิดเหตุ ซึ่งยอมรับว่าเป็นญาติกันแต่ไม่สนิทกันเลยซึ่งผู้คุมคนดังกล่าวไม่รู้เรื่องอะไรเลยอย่าเอาไปโยงกันเลยขอให้สื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้คุมคนดังกล่าวด้วย.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับพฤติกรรมของนายคเณศ หรือ “ บอย สลัม ” พบว่า ช่วงบ่ายวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา เสี่ยแป้ง โทรศัพท์หาบอย สลัม ให้เข้ามาเยี่ยมที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช หลังจากนั้นนางสาววิลาวัลย์ หรือ ไหม ส่งโทรศัพท์ให้ก่อนหน้านี้ เมื่อนายบอย สลัม เข้ามาเยี่ยมช่วงค่ำคืนดังกล่าว แต่ระหว่างที่นายบอย กำลังกลับ เสี่ยแป้งได้บอกนายบอยว่า “ ให้อยู่เป็นเพื่อนก่อน รอเพื่อนอีกคนมา ” จากนั้นนายบอย ออกไปรับเพื่อนคนดังกล่าวที่หน้าลิฟท์ชั้น 6 ซึ่งปรากฏว่าเป็นนายจักรี หรือ บิ๊ก และ น.ส.ไหม เดินออกมา แต่บอยไม่รู้จัก บิ๊ก รู้จัก แต่ น.ส.ไหม เพราะเคยเจอกับไหมที่มารับจ้างเฝ้าไข้ที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เมื่อหลายเดือนก่อน หลังออกจากคุก เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

หลังจากนั้น น.ส.ไหม แนะนำให้นายบอย รู้จักกับนายบิ๊ก ก่อนที่นายบิ๊ก จะส่งกระเป๋าให้นายบอย ช่วงช่วงประมาณตี 3 ของคืนวันที่ 20 ต.ค.ซึ่งนายบอย ได้หิ้วกระเป๋าที่พกคีมตัดเหล็กข้างในกระเป๋าไปให้เสี่ยแป้ง ที่นอนอยู่บนเตียง โดยเสี่ยแป้ง เองก็พยายามจะใช้คีมตัดโซ่ตั้งแต่ช่วงราวตี 3 ถึงตี 5า แต่ไม่สำเร็จ ทั้ง 3 คน จึงพากันลงมาด้านล่าง โดยนายบอย ขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งนายบิ๊ก ที่รถยนต์ที่จอดด้านหลัง รพ.หน้าตึกเอกซเรย์รังสี ก่อนพากันแยกย้าย

ต่อมาช่วงเช้าวันที่ 21 ต.ค.เสี่ยแป้ง โทรศัพท์ให้นายบอย หาซิมโทรศัพท์มาให้ 1 ซิม ก่อนที่นายบอย จะขี่รถจักรยานยนต์นำซิมมาที่หน้าตึกกายภาพ หลังโรงพยาบาล โดยมี น.ส.ไหม เป็นคนลงมารับซิมโทรศัพท์ ก่อนจะพาซิมไปให้นายเชาวลิต หรือ เสี่ยแป้ง เพื่อเตรียมวางแผนหลบหนีอีกครั้ง และสำเร็จ เพราะทราบว่ามีการเปลี่ยนมาใช้กุญแจผีไขสะเดาะกุญแจแทนการใช้คีมตัดโซ่ตรวจ นายคเณส หรือ นายบอย สลัม ให้การยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และให้การว่า ร่วมวางแผนกับเสี่ยแป้ง ในวันที่ไปเยี่ยมในคืนแรกบนเตียง โดยเสี่ยแป้ง บอกว่า หากช่วยหนีสำเร็จจะให้รถกระบะคันใหม่ 1 คัน พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้รู้จักผู้คุม และผู้คุม ไม่ได้เกี่ยวข้อง เพียงแต่บังเอิญนามสกุลเดียวกันเท่านั้น และยอมรับว่าตนรู้จักผู้คุม ช่วงที่ตนติดคุก แต่ไม่ได้สนิทสนม

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ