เปิดประวัติ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้ไม่เกรงกลัวอิทธิพล บุกจับ ลูกเขยชาดา พบเคยจู่โจมค้น ชาดา มาก่อน
ต้องบอกว่าเป็นประเด็นร้อนที่หลายคนจับตามองอยู่ในขณะนี้ กับกรณีบุกจับนายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่ จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็นลูกเขย ของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในคดีเรียกรับสินบน 6 แสนบาท โครงการก่อสร้างระบบประชาหมู่บ้าน และชื่อของ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ก็ได้รับการพูดถึงอีกครั้ง หลังจากที่เขาเป็นผู้นำกำลังเจ้าหน้าที่และชุดปฏิบัติการพิเศษ หนุมานกองปราบ เข้าปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว หรือ ผู้การเต่า รักษาการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (รรท.ผบก.ทล.) เกิดเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ.2511 เป็นชาวจังหวัดสุพรรณบุรี บิดาเป็นเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ถือเป็นมือปราบที่ไม่เคยเกรงกลัวอิทธิพลใด ๆ และผ่านคดีดังมากมายที่เกี่ยวข้องกับการจับข้าราชการระดับสูง
โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ จบการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 29 และจบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 45 ก่อนจะเริ่มรับราชการเป็นตำรวจตระเวนชายแดน กองร้อย ตชด.144 จังหวัดเพชรบุรี จากนั้นเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าชุดยาเสพติด ตชด.ภาค 1 ก่อนจะเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเรื่อยๆ ในสายงานสืบสวนสอบสวน กระทั่งติดยศ พล.ต.ต. ในตำแหน่งผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.)
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เดินหน้าตรวจสอบและจับกุมข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ ที่กระทำการทุจริตในหลายคดีดัง เช่น การจับกุมอดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช, จับกุมเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตราชเวที กรุงเทพฯ, จับกุมนายกเทศมนตรีบางแก้ว จังหวังสมุทรปราการ เป็นต้น และยังมีคดีสำคัญในมืออีก 2 คดี ได้แก่ คดีส่วยสติ๊กเกอร์รถบรรทุก และปัญหาข้อพิพาทวัดบางคลาน จังหวัดพิจิตร ที่รอการคลี่คลาย
นอกจากนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังเป็นผู้นำกำลังตำรวจ พร้อมอาวุธครบมือ เข้าตรวจค้นบ้านของ บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หลังมีข้อมูลพบความเชื่อมโยงกับกลุ่มพนันออนไลน์ ที่กลายเป็นข่าวดังหลายสัปดาห์อีกด้วย
ทั้งนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เคยให้สัมภาษณ์เล่าถึงสไตล์การทำงานของตนเองว่า ประชาชนไม่จำเป็นต้องร้องขอความยุติธรรม เพราะตำรวจต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่มีป้ายว่าที่พึ่งสุดท้ายที่หมายพึ่ง ใครมาก็เดินก้มหน้าออกไป บางคดีตำรวจท้องที่ไม่สามารถทำได้เพราะเจอผู้มีอิทธิพล ตำรวจกองปราบฯ ก็ต้องเป็นหน่วยสุดท้ายที่จะเข้าไปดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพล
ก่อนหน้านี้ในปี พ.ศ.2560 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เคยโชว์ผลงานนำเจ้าหน้าที่ตำรวจ วางแผนตรวจค้นรถของชาดามาแล้ว ซึ่งหลังการตรวจค้นรถทั้ง 8 คันของชาดา พบอาวุธปืนและกระสุนพร้อมใช้ที่ตัวลูกน้องของชาดา พร้อมด้วยอาวุธปืนอีกหลายประบอกและของกลางอีกหลายรายการ ซึ่งทำให้ชาดาต้องถูกสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป