ไล่ล่าพระตุ๋ยเณรอายุ 14 ปี มาราธอนกว่า 40 ครั้งในกุฏิสำนักสงฆ์ชายป่าห้วยขาแข้ง

ไล่ล่าพระตุ๋ยเณรอายุ 14 ปี มาราธอนกว่า 40 ครั้งในกุฏิสำนักสงฆ์ชายป่าห้วยขาแข้ง

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.อุทัยธานี สนธิกำลัง นำหมายศาล จับ ที่ 642/2566 ลงวันที่ 3 ตุลาคม 2566 ตามไล่ล่าจับกุมพระฤทธิไกร (หรือวิไล) คำสีทา อายุ 53 ปี บ้านเลขที่ 250 หมู่ 4 ต.แม่เปิน อ.แม่เปิน จ.นครสรวรรค์ ในข้อหา 1 พาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ไปเพื่อการอนาจาร 2 กระทำอนาจารแก่เด็กอายุสิบห้าปี โดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ 3พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ไปเสียจากผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุอันควร โดยกระทำเพื่ออนาจาร

เหตุเกิดที่สำนักสงฆ์คลองเคียน หมู่ 1 บ้านคลองเคียน ต.ทองหลาง อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี ติดชายป่าห้วยขาแข้ง เหตุเกิดเมื่อ 1 ส.ค.66 จนถึง 27 ก.ย.66 ภายในกุฎิ ที่พักสงฆ์คลองเคียน หมู่ 1 ต.ทองหลาง อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี ชายป่าห้วยขาแข้ง

หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังสำนักสงฆ์คลองเคียน พบกับพระอาจารย์สายันต์ หัวหน้าสำนักสงฆ์ และได้สอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง ว่า โดยพระสายยันต์ได้สอบถามเณรทั้ง 2 ได้เล่าเหตุการณ์เกิดขึ้นก่อนที่จะไปจากสำนักสงฆ์ หลังจากนั้นได้พาผู้สื่อข่าว ไปดูกุฎิด้านหลังชายป่าที่พระฤทธิไกร หรือวิไล ได้นำพาเณรทั้ง 2 คือ ด.ช.ก๊อป อายุ 14 ปี บ้านเลขที่ 241 หมู่ 4 ต.แม่เปิน อ.แม่เปิน จ.นครสวรรค์ และ ด.ช.ไอซ์ อายุ 14 ปี ทั้ง 2 มาพักอาศัยอยู่ โดยในห้องนอนได้มีพระฤทธิไกร ได้อาศัยนอนกับเณรไอซ์ ส่วนหน้าห้องมี เณรก๊อป กลางมุ่งนอนอยู่คนเดียว พร้อมกับชี้ที่เหตุการณ์ที่บริเวณหน้าห้องว่า พระฤทธิไกร หรือวิไล ช่วงกลางคืนได้ออกมาจากในห้องนอนที่นอนอยู่กลับเณรไอซ์ แล้วออกมาหาหลับนอนกับเณรก๊อป และได้ลงมือทำอนาจารโดยตุ๋ยตูดเณรก๊อป ตั้งแต่ 1 ส.ค.66 ที่ผ่านมา วันที่ 27 ก.ย.66 เป็นคืนสุดท้าย กว่า 40 ครั้ง

ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก ด.ช.ก๊อป ว่าเหตุเกินเมื่อประมาณต้นเดือน ส.ค .66 ที่ผ่านมา ซึ่งพ่อกับแม่ตนเองนั้น ไปทำงานต่างจังหวัด ซึ่งที่บ้านมีฐานะยากจน ตนเองได้ไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านของญาติ ซึ่งเป็นน้าสาวของบิดา หลังจากนั้นเมื่อปลายเดือน ก.ค 66 ได้มีเพื่อน ชื่อไอซ์ ซึ่งเป็นเพื่อนกับตนเอง ได้ขับขี่ จ.ย.ย.มารับตนเอง โดยบอกว่าหลวงตาพระฤทธิไกร ให้มารับไปหาที่วัดเขาแหลม ต.แม่เปิน และเมื่อตนเองไปถึง ตนเองจึงเดินไปพร้อมกับเพื่อน ด.ช.ไอซ์ ไปพบพระฤทธิไกร ตนเองก็นั่งพูดคุยสักพัก ตนเองก็ขอตัวกลับบ้าน หลังจากนั้นพระฤทธิไกร ได้พูดกับตนเองว่า มึงไม่ต้องกลับเลย พร้อมกับได้นำมีดอีโต้มาข่มขู่ตนเอง ด้วยความกลัวตนเองจึงไม่กล้ากลับบ้าน และได้นอนพักอยู่ที่วัดเขาแหลม นานถึง 2 สัปดาห์

หลังจากนั้นพระฤทธิไกร ได้ติดต่อกับพระหัวหน้าสำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง ซึ่งตนเองก็ไม่รู้จัก และให้พาตนเองและเพื่อนที่ชื่อไอซ์ มาบวชเณรที่วัดประดู่ยืน อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี และได้นำตนเอง พร้อมกับ เพื่อนชื่อไอซ์ มาอยู่ที่สำนักสงฆ์คลองเคียน โดยพระฤทธิไกร หรือวิไล ได้เลือกไปอยู่ที่กุฎิด้านหลังวัด ที่เงียบ โดยในห้องพระฤทธิไกร หรือวิไล ได้นอนอยู่กับเพื่อน ส่วนตนเองนั้นนอนอยู่หน้าห้องคนเดียว พอตกกลางคืนมาพระฤทธิไกร ได้มาเปิดมุ้งออกมา และได้มานอนลูบคลำตนเอง หลังจากนั้นได้เลิกผ้าสบงช่วงล่างของตนเองขึ้น โดยตนเองก็ไม่กล้าร้องเพราะอยู่ในป่า หลังจากนั้นได้ลงมือกระทำอนาจารตนเอง ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.66 โดยกระทำอนาจารแบบนี้เกือบทุกคืน จนถึงวันที่ 27 ก.ย.66เป็นคืนสุดท้าย กว่า 40 ครั้ง โดยพระฤทธิ หรือวิไล สำเร็จความใคร่ตลอด

หลังจากนั้น บิดา และมารดา ของเณรไอซ์ มารับ ตนเองจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง และให้ช่วยไปบอกกับญาติๆ ตนเองด้วย ให้มารับ ตนเองทนไม่ไหว กลัวพระฤทธิไกร หรือวิไล ซึ่งก่อนหน้าตนเองกับเณรไอซ์ นั้นเคยหนี ออกจาก สำนักสงฆ์ แล้วครั้งหนึ่งแต่พระฤทธิไกร หรือวิไล ก็ไปตามกลับมาได้ เนื่องจากตนเองนั้นไม่รู้ จะไปไหน เนื่องจากไม่มีที่อยู่อาศัย มีแต่ป่า ต่อมาพระฤทธิไกร ได้ตระโกนดุด่าว่าตนเอง จนชาวบ้านในระแวกนั้นคิดว่าทะเลาะกัน

หลังจากนั้นที่ พ่อแม่ของเณรไอซ์ มารับตัวเณรไอซ์ กลับไปแล้ว และได้ติดต่อกับญาติ ๆ ของเณรก๊อป หลังจากนั้นวันที่ 27 ก.ย.66 ได้มีผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.แม่เปิน พร้อมกับ พ่อและญาติ ได้มารับตนเอง และได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง หลังจากนั้นก็เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.ดิเรก เอี่ยมเล่ สารวัตรเวร สภ.ห้วยคต ดังกล่าว

ทราบข่าวจากชาวบ้าน ต.แม่เปิน นั้นทราบดี และวัดในเขตแม่เปิน นั้นไม่มีเจ้าอาวาสองค์ใด รับพระฤทธิไกร มาอยู่ในวัดเขต ต.แม่เปิน ซึ่งพฤติกรรม นั้นไม่ดี และไม่เคยออกบิณฑบาต กินข้าวเย็นทุกวัน พอชาวบ้านมาว่าก็อ้างว่าเจ็บป่วย จนวัดในเขตแม่เปินไม่รับเข้าจึงหนีมาอยู่ในป่าชายป่าห้วยขาแข้ง และได้พาเด็ก 2 คนนั้นมาด้วย โดยที่ญาติพี่น้องไม่รู้ว่าเด็กทั้ง 2 ไปไหน จนช่วงหลังได้มีโทรศัพท์ของ เณรไอซ์โทรไปหา พ่อกับแม่เข้า จึงรีบมารับตัว และทราบเรื่องดังกล่าว

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้มาสอบถามกับพระสมควรสีสรรพ์ พระลูกวัด วัดประดู่ยืน ได้เล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟัง ว่าช่วงก่อนเข้าพรรษา ช่วงเดือนกรกฏาคม ได้มีพระสายันต์ หัวหน้าสำนักสงฆ์ คลองเคียน อ.ห้วยคต ได้พาญาติโยม มีทั้งพระมีทั้งเด็ก อายุ ประมาณ 13-14 ปี และญาติของเด็ก โดยรวมทั้งพระทั้งญาติโยม 6 คน โดยทาฝพระสายันต์ ได้รู้จักกับเจ้าอาวาสวัดประดู่ยืน จึงเดินทางมาขอให้ทางเจ้าอาวาส วัดประดู่ยืน บวชเณร ให้ 2 องค์ โดยมีพระสายันต์และพระฤทธิไกรมาด้วย และญาติโยม 2 คน หลังจากบวชเสร็จ พระสายันต์และพระฤทธิไกร ก็นำเณร ทั้ง 2 องค์ กลับไปอยู่ที่สำนักสงฆ์คลองเคียนด้วย ทั้งนี้ทางวัดประดู่ยืน ไม่รู้จักพระฤทธิไกร เป็นการส่วนตัว เพียงแต่รู้จักพระสายันต์ สำนักสงฆ์คลองเคียนเพียงเท่านั้น ถึงได้บวชเณรทั้ง 2 องค์ให้

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดไล่ล่า หาตัวพระฤทธิไกร หรือวิไล เผยว่า ใครพบพระฤทธิไกร หรือวิไล ซึ่งตอนนี้ได้หลบหนีไปยังตามวัดต่าง ๆ และบ้านญาติ ๆ ให้ช่วยแจ้งมายัง สภ.ห้วยคต เบอร์โทร 056-518129 ชุดสืบสวน หรือวิทยุ 191 อุทัยธานี ซึ่งเป็นบุคคลเป็นภัยสังคมดังกล่าว

ภาวิณี ศรีอนันต์ ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ อุทัยธานี

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ