ชายมีอาการลืมตาไม่ได้ พูดไม่ออก หลังทานปลาซาร์ดีนกระป๋อง แพทย์เตือนอันตรายมาก
สำหรับเรื่องนี้มีที่มาจากเพจเฟซบุ๊ก World Forum ข่าวสารต่างประเทศ ได้โพสต์ข้อความบอกเล่าเรื่องราวของคู่รักคู่หนึ่งในเมือง บอร์กโด ประเทศฝรั่งเศส คู่รักคู่นี้ประกอบไปด้วย แมท อายุ 41 ปี และ คริสตี้ อายุ 19 ปี ทั้งคู่มาจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เดินทางมาเที่ยวฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2023 หลังจากนั้น ได้ไปไวน์บาร์ตามโปรแกรมท่องเที่ยว ยังร้าน Tchin Tchin Wine Bar และคู่รักสั่งเนื้อเย็นและปลาซาร์ดี เมนูเรียกน้ำย่อยมาทาน คริสตี้ทานไม่มาก ส่วนแมท ประมาณ 2 ตัว ในวันรุ่งขึ้น อาการแมท แย่ลง ส่วนคริสตี้มีอาการไม่มาก
ต่อมาวันที่ 7 กันยายน 2023 คู่รักคู่นี้ไปไร่องุ่น ขณะปั่นจักรยาน มีอาการวิงเวียนศีรษะ ทัวร์ได้พาไปนั่งในรถตู้ แมท อ้วกออกมา ปากแห้ง ลิ้นชา และกลืนไม่ได้ นั่นทำให้คริสตี้โทรหารถฉุกเฉิน แมททิว ถูกส่งเข้าห้องไอซียูเป็นผู้ป่วยหนักใส่เครื่องช่วยหายใจ จากนั้นวันที่ 10 กันยายน หลังได้รับยาต้าน คริสตี้ดีขึ้นเกือบปกติ ส่วน แมท ยังอาการหนัก 26 กันยายน คริสตี้ เปิดเผยข้อมูลกับสื่อส่วนแมท ยังอยู่ในไอซียูมา 20 วันแล้ว
หน่วยงานสาธารณสุขของฝรั่งเศสออกแถลง การระบาดของโรคโบทูลิซึม เกิดจากปลาซาร์ดีนกระป๋อง แบบเก็บรักษาไว้ในน้ำมัน (ปลาซาร์ดีนในน้ำมันพืช) บาร์ไวน์ เสริฟระหว่าง 4-10 กันยายน ตรวจพบผู้ป่วยต้องสงสัยโรคโบทูลิซึม 15 ราย และ 10 รายเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เสียชีวิต 1 ราย
อย่างไรก็ตาม อาการของ แมท ไม่สามารถลืมตา (เปิดเปลือกตาได้) พูดไม่ได้ ลิ้นเหมือนเป็นอัมพาต การสื่อสารปัจจุบัน เขียนบนกระดานไวท์บอร์ด หนทางในการฟื้นฟูยังอีกยาวไกล และกำลังพิจารณา การฟ้องร้อง ทั้งนี้ โรคโบทูลิซึม (botulism) เกิดจากแบคทีเรีย คลอสทริเดียม โบทูลินัม มักอยู่ในอาการกระป๋อง หมักหรือดอง เกิดจากการปนเปื้อนและในขั้นตอนการแปรรูป
แบคทีเรียเติบโตได้โดย ใช้ออกซิเจนต่ำ ซึ่งมีอยู่ในดินและตะกอนทะเลทั่วโลก และแบคทีเรียมีอายุยาวนานหลายปี ซึ่งแพทย์ที่ให้การรักษาคู่รักคู่นี้ ทราบว่าหากป่วยจากโรคโบทูลิซึม ต้องรีบให้ยาต้าน (เคสของ แมท อาจให้ยาช้า 3-5 วันหลังป่วย ) จึงได้มีอาการแบบนี้