เปิดใจบ่าวสาว ถึงความสูญเสียครั้งใหญ่ หลังโศกนาฏกรรมงานแต่ง สังเวยชีวิตกว่า 114 ราย
กลายเป็นโศกนาฏกรรมที่สร้างความสูญเสียเป็นอย่างมาก เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้กลางงานแต่งงานในเมืองอัล-ฮัมดานิยาห์ ในจังหวัดนีนะเวห์ ประเทศอิรัก ในขณะที่บ่าวสาวกำลังเต้นรำครั้งแรกบนฟลอร์อย่างมีความสุข ท่ามกลางพลุไฟที่จุดขึ้น แต่ทั้งงานกลับต้องแตกตื่น เมื่อสะเก็ดไฟทำให้ไฟไหม้ลามไปยังเพดานห้องโถงจนพังทลาย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 114 รายและบาดเจ็บอีก 150 ราย สร้างความเสียใจให้ญาติผู้เสีย รวมไปถึงบ่าวสาวที่รอดชีวิตเป็นอย่างมาก
ล่าสุด เว็บไซต์ Sky News ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์พิเศษ นายเรวาน อิสโฮ และนางฮานีน ภรรยา บ่าวสาวผู้รอดชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ โดยนายเรวาน วัย 27 ปี เริ่มเล่าว่า หลังจากเห็นไฟลุกไหม้ เขาได้รีบคว้าตัวเจ้าสาวแล้วลากออกจากห้อง ผ่านทางประตูไปยังห้องครัวไปยังด้านนอก ระหว่างทางที่หนีออกมาก็เห็นว่าเจ้าสาวได้รับบาดเจ็บที่ขา ในขณะที่คนอื่น ๆ ต่างกำลังวิ่งหนีพยายามเอาตัวรอด
เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้เกิดขึ้นในงานเลี้ยงฉลองแต่งงานของทั้งคู่ ซึ่งจัดแบบชาวคริสต์ โดยมีแขกเดินทางมาร่วมงานกว่า 900 คน ซึ่งทุกคนอยู่ในอาการแตกตื่นตกใจ พยายามหนีออกไปด้านนอก ในขณะที่วัสดุก่อสร้างถูกเผาไหม้ได้ปลิวร่วงลงมา จากข้อมูลทางฝั่งตำรวจได้มีการระบุว่า เป็นเพราะวัสดุก่อสร้างต้นทุนต่ำ ติดไฟง่ายในอาคาร ทำให้เปลวไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จนเกิดความสูญเสียครั้งใหญ่เช่นนี้
นายเรวาน กล่าวต่อว่า พวกเขาตัดสินใจที่จะย้ายไปอยู่ที่อื่น เพราะทนอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว ทุกครั้งที่พวกเขาพยายามจะมีความสุขก็กลับเกิดเรื่องไม่ดีที่มาทำลายความสุข โดยตอนนี้ภรรยาของเขาซึ่งมีอายุ 18 ปี กำลังอยู่ในสภาพเสียใจสุดขีด พูดอะไรไม่ออก เพราะสูญเสียครอบครัว ทั้งแม่ และน้องชาย ในขณะที่พ่อกำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล เช่นเดียวกับตัวเขาที่สูญเสียญาติไป 15 คน แม้ตอนนี้พวกเขาจะมานั่งให้สัมภาษณ์พูดคุยได้ แต่ข้างในใจคือไม่ไหวแล้ว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้สื่อต่าง ๆ รายงานว่า สาเหตุเพลิงไหม้อาจเกิดจากพลุที่จุดในงาน เกิดการเผาไหม้ของวัสดุตกแต่งเพดานจนรู้สึกมีความร้อนด้านบน เจ้าบ่าวบอกว่าก่อนเริ่มงานพ่อของเขาได้ถามเจ้าของสถานที่ให้แน่ใจแล้วว่า พลุจะไม่กระเด็นมาโดนชุดลูกสะใภ้ไฟไหม้ใช่มั้ย โดยเจ้าของสถานที่ตอบว่าไม่มีทาง เพราะเป็นพลุไฟฟ้า ไม่มีประกายไฟ ต่อให้เอามือ หรือพลาสติกมาโดนก็ไม่ไหม้ แต่แล้วก็ไม่ใช่อย่างที่พวกเขาคิด