เว็บไซต์มิเรอร์ (Mirror) ได้มีการรายงานเรื่องน่าสยองของครอบครัวหนึ่ง ที่พาทารกอายุ 10 เดือน มารักษาอาการปวดท้อง ที่โรงพยาบาลเมืองซาดีคาบัด ประเทศปากีสถาน ตอนแรกแพทย์คิดว่าทารกเป็นโรคท้องมาน ซึ่งเป็นภาวะที่มีการสะสมของของเหลวในบริเวณช่องท้องมากเกินไป จนเมื่อเริ่มผ่าตัด หลังผ่านไป 2 ชั่วโมง พวกเขาได้นำเนื้องอกขนาดใหญ่ออกมาจากท้องของเด็กหญิง ก่อนจะพบว่าเนื้องอกดังกล่าว คือ ตัวอ่อนของทารกอีกคน หรือที่เรียกว่า แฝดปรสิต (fetus in fetu)

โดยคุณพ่อของเด็กหญิงรายนี้ กล่าวว่า ลูกสาวมีอาการปวดท้องตั้งแต่เกิด ซึ่งก็ได้รับการรักษาแล้วแต่ไม่ดีขึ้น ครอบครัวจึงตัดสินใจพาลูกมาตรวจอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลแห่งนี้ แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องสุดช็อกแบบนี้

ด้านศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด ได้ให้ความเห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเรียกว่าแฝดปรสิต หรือตัวอ่อนที่หยุดเจริญเติบโตในท้องแม่ แล้วเข้าฝังตัวอยู่ในร่างคู่แฝด เป็นกรณีที่เกิดขึ้นได้ 1 ในล้าน เพราะฉะนั้น ขั้นตอนการผ่าตัดจึงซับซ้อนและยากเอามาก ๆ เนื่องจาก สิ่งสำคัญคือการรักษาชีวิตของเด็ก โดยตอนนี้ทีมแพทย์ได้ส่งตัวอ่อนที่ผ่าออกมาไปตรวจสอบเพิ่มเติมแล้ว และเด็กเริ่มมีอาการทรงตัวหลังผ่าตัด

อย่างไรก็ตาม เคสนี้ไม่ใช่เคสแรก เพราะว่าก่อนหน้านี้ในประเทศอินเดียเคยเกิดเคสแฝดปรสิต กับหนุ่มวัย 18 ปี ที่มีอาการปวดท้องและอาเจียนจนต้องนำส่งโรงพยาบาล โดยแพทย์ได้ตรวจหาอาการป่วย จนพบว่ามีแฝดน้องเติบโตอยู่ในช่องท้อง ลักษณะมีกระดูก ฟัน เนื้อเยื่อ และเส้นผม โดยมีความยาวทั้งหมด 20 เซนติเมตร หนักประมาณ 2 กิโลกรัม

สำหรับ การเกิดแฝดปรสิต หรือแฝดกาฝากนี้ จะเกิดขึ้นตั้งแต่ในระยะบลาสโตซิสต์ (Blastocyst) ซึ่งเป็นระยะที่กลุ่มเซลล์มีการแบ่งตัว เกิดจากไข่ที่ปฏิสนธิแล้ว ไม่สามารถแยกตัวได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้เซลล์ตัวอ่อนหนึ่งตัว ถูกเซลล์อีกตัวห่อหุ้มเอาไว้ จนไม่สามารถเจริญเติบโตขึ้นได้ แต่ยังคงมีชีวิตอยู่นั่นเอง

ข้อมูล Mirror