ประวัติ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ หรือ ผกก.เบิ้ม ฉายา สยบ1 อีกชีวิตที่สูญไปกับคดีกำนันนก

ประวัติ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ หรือ ผกก.เบิ้ม ฉายา สยบ1 อีกชีวิตที่สูญไปกับคดีกำนันนก

จากกรณีพันตำรวจเอกวชิรา ยาวไทยสงค์ ผู้กำกับการ 2 กองกับการตำรวจทางหลวง หนึ่งในผู้ร่วมงาน และเป็นคนพาสารวัตรแบงก์ไปงานเลี้ยงกำนันนกจนถูกหน่องท่าผายิง และเป็นคนพาสารวัตรแบงก์ไปส่งโรงพยาบาล

ตัดสินใจยิงตัวเองเสียชีวิตภายในบ้าน โดยญาติได้เร่งนำร่าง ผกก.เบิ้มส่งโรงพยาบาลแต่เสียชีวิตระหว่างทาง โดยแหล่งข่าวยืนยันว่าหลังเกิดเรื่องนี้ พันตำรวจเอก วชิรา หน้าตาหมองคล้ำและเครียดอย่างหนัก แต่ยังไม่ทันพูดคุยกัน ก็คิดสั้นก่อน

สำหรับประวัติของ พันตำรวจเอกวชิรา ยาวไทยสงค์ ผู้กำกับการ 2 กองกับการตำรวจทางหลวง หรือ ผกก.เบิ้ม นั้น เว็บไซต์ policenewsvarieties เปิดเผยไว้ว่า

กองกำกับการต่อต้านการก่อการร้าย กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (กก.ปพ.บช.ก) จัดเป็นอาวุธหนักที่รวบรวมกำลังพลชั้นยอดของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะแต่ละคนจะเข้ามาติดอาร์ม ปพ.ได้ ต้องจบหลักสูตรนเรศวร 261 หลักสูตรสุดยอดของสนักงานตำรวจแห่งชาติเท่านั้น ปัจจุบันมี ผู้กำกับเบิ้ม-พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ เป็นผกก.ปพ.บช.ก. นามเรียกขาน สยบ1(สยบ ย่อมาจากสยบริปูสะท้าน)

เส้นทางของผู้กำกับเบิ้ม จากลูกชายคนโตของอดีตนายทหารม้า ม.พัน7 ค่ายพระยาพิชัยดาบหัก จ.อุตรดิตถ์ ที่ไปพบรักครูสาว จ.น่าน โตมากับครอบครัวทหาร ความฝันวัยเด็กอยากสวมเครื่องแบบตามพ่อ มุสอบเข้าเตรียมหาร รุ่น 39 เหล่าตำรวจ นรต.รุ่น 55

บรรจุครั้งแรกไปศรีสะเกษ จบไปลงที่ศรีสะเกษ บรรจุครั้งแรก ปี 2545 ลงที่กิ่ง อ.ศรีรัตนะ เป็น นรต.ชุดแรกของโรงพัก มีเพื่อนไปด้วย 3 คนแรก ตอนนี้คนหนึ่ง เป็น ผกก.อยู่ที่กำแพงเพชร อีกคนเป็นรอง ผกก.อยู่ที่ศรีสะเกษ ที่ไปลงศรีสะเกษ เพราะสอบได้ที่ดี สอบได้เลขตัวเดียว ทั้งรุ่นมี 300 กว่าคน ผมสอบได้เลขตัวเดียว 222

เจ้าตัวเปิดใจไว้ว่า กว่าจะจบหลักสูตร เหนื่อยมาก เหนื่อแทบขาดใจ ฝึกตอนนั้น 18 สัปดาห์ ทุกวันต่อเนื่อง ด้วยความเข้มข้น มีสัปดาห์หนึ่ง คือสัปดาห์พิสูจน์ตัวเอง เขาเรียกว่า การปฏิบัติการภายใต้สภาวะพิเศษ เคลื่อนที่ตลอดเวลา 120 ชั่วโมง ไม่หลับไม่นอน คือ 5 วัน 4 คืน บางคนก็ช็อก บางคนก็ฮีทสโตรก บางคนความดันขึ้น แต่ว่าตอนนั้นร่างกายมันพีคแล้วไง ไหลไปเป็นซอมบี้เลย เหมือนกับผ่านเรื่องนี้มาได้

ปีเดียวจบ2หลักสูตร

ตอนนั้นคือต้องเช็ค ประสาท ร่างกาย ว่าปกติรึเปล่า ก็ปกติ แกก็บอกให้ไปฝึกเลย ก็ไปฝึกก็ได้ในปีเดียว คือทั้งนเรศวร 261 แล้วโดดร่มแบบกระตุกเอง สกาย พร้อมกันมันก็สุดนะ ชีวิตจากสืบสวน มาเป็นแบบนี้ พลิกไปเลยนะ แบบแตกต่างกันเลย

ขึ้นผกก.วิเคราะห์ข่าวที่ ปพ.

มาเป็น ผกก.อยู่ที่นี่ โต อยู่ ปพ.ตลอด อยู่กองปราบ 2 ปี พอเปลี่ยนจากกองกำกับ เป็นกองบังคับการ ตอนนั้นเป็นกองบังคับการถวายความปลอดภัยฯ แล้วถึงมาเป็นปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 แล้วเป็นกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ ก็เป็นรอง ผกก.อยู่ที่นี่ แล้วขึ้น ผกก.วิเคราะห์ข่าว ที่ ปพ.นี่แหละ

สยบ1ต้องจบ 261เท่านั้น

หลังจากนั้น พี่ต่อ เป็น ผบช.แกบอกว่า กองกำกับการนี้ต้องเฉพาะคนที่จบนเรศวร 261 เท่านั้น ณ นาทีนั้น ไม่มี คนที่มาดำรงตำแหน่ง สว.รอง ผกก.และ ผกก.ไม่มี พูดง่ายๆ ถ้าในประเทศไทย จะมีอยู่คนเดียว คนอื่นเขาจะไปเป็น ผกก.อรินทราช ที่ไปเป็น ผกก.อย่าง ผกก.ต่อ ก็อยู่ ฝอ.พลร่ม แต่ที่นี่จะมีอยู่คนเดียว

ที่นี่ตำแหน่งเลือกคน

พี่เขายังบอกว่า ที่นี่ ตำแหน่งมันเลือกคน จะให้ใครมาเป็นก็ไม่ได้ ไม่ใช่แบบตำแหน่งอื่น จะให้ไปก็ได้ แต่นี่มันต้องเฉพาะเท่านั้น ผกก.ต่อต้านก่อการร้าย ต้องจบหลักสูตรต่อต้านการก่อการร้ายนเรศวร 261 เท่านั้น สว. รอง ผกก. ด้วย

กำลังพลสุดแกร่ง

สารวัตรของผม คุณภาพทั้งนั้น มีมนุษย์กบ 3 คน รีคอน 1 คน มีเกม กาญ เป็น สว.แล้วก็รีคอน ไอ้ตูน อยู่ที่นี่ ตอนนี้ไปอยู่ ไปช่วยพี่กุ้ง อยู่กอง 3 แล้วก็รอง ผกก.ก็มีเจษฎ์ จะเป็นต่อต้านฯ เรียนจบอยู่แล้ว แต่เจษฎ์ นี่จบ แรงเยอร์ อีโอดี อีกคนหนึ่ง ก็โหน่ง นักยิงปืนทีมชาติ ยิงปืนนี่ ไม่ต้องพูดถึง เอาปืนอะไรมาก็ได้ 4 คนนี้มีคุณสมบัติที่สุด 6 คนนี่ คือ ผมจะสบาย สั่งการอะไรยังไง ทำตามได้ทุกอย่างเลย ตามที่เราวางแผน

ทั้งหมดวันเดียวสร้างไม่ได้

หน่วยนี้มันจะมากกว่าคนอื่น คือนอกเหนือจากการปฏิบัติการพิเศษการใช้อาวุธแล้ว จะมีเรื่องการถวายความปลอดภัยเข้ามาด้วย ทุกคนจะมีงานที่นอกเหนือจากงานในหน้าที่เพิ่มเข้าไปอีก บอกได้เลยว่า ไว้ใจได้แน่นอนฝีมือ น้ำ ฟ้า สั่ง ได้หมด 3 มิติ นอกเหนือจากสั่งการ แต่ว่าทั้งหมดทั้งมวล ไม่ใช่ว่า อยู่ดีๆ วันเดียว มันจะสร้างได้

บุคลากรชั้นดีอาวุธชั้นเลิศ

ถ้าเกิดว่ากันตามเรื่อง ถ้าจบหลักสูตรหนักๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยผมนี่ก็ถือว่า มีบุคลากรชั้นดี ชั้นเลิศ แล้วโชคดี อาวุธ ยุทโธปกรณ์ สมัยที่พี่ต่อตั้งหน่วย สามารถหามาสนับสนุนกองบังคับการได้ ปืนก็จะดีที่สุด

จับโจรต้อง3ต่อ1

การปฏิบัติการของตำรวจ ไม่ว่าจะชุดปฏิบัติการพิเศษ หรือชุดปกติทั่วไป ยังไง ต้องยึดหลักว่า จะต้องเหนือกว่าอยู่แล้ว ไม่มีใครไปหรอก คนร้าย 1 คน ตำรวจ 1 คน ไม่มีหรอก มันต้องมากกว่าอยู่แล้ว อัตราส่วนอย่างน้อยต้อง 3 ต่อ 1 ถ้าเรารู้ว่าคนร้าย 3 ตำรวจ ต้อง 9 หรือ 10 คือ 3 ต่อ 1 ต้องมีสปีด เซอร์ไพร์ส ช็อก แอคชั่น

เอาเปรียบคนร้ายทุกเรื่อง

มันต้องรวดเร็ว คนร้ายไม่ทันตั้งตัว ตกใจทำอะไรไม่ถูก ที่เพิ่มขึ้นมา ก็คือ ช็อก แอคชั่น ถ้าเอาเปรียบได้ ก็ต้องเอาเปรียบ มันเรื่องของชีวิตเลย ยังไงเราก็ต้องเหนือกว่า คนมากกว่า วางแผนได้ดีกว่า อยู่แล้ว

เร็วด้วยแม่นด้วยนัดเดียวไม่ได้

แต่ตอนที่เรียนที่ค่าย มันเรียนพื้นฐานนะ มีพื้นฐานที่แน่นมาก ไปยิงปืน ผมยอมรับเลย ว่าผมยิงปืนดีคือที่ค่ายนเรศวร เขาสอนจนแบบว่า ผมยิงร้อยรูไม่ได้ ถ้ายิงร้อยรู แสดงว่าคุณปั้น ไม่ได้ยิงปืนระบบต่อสู้

ข้อมูล policenewsvarieties

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ