จากเหตุนายวีระพงษ์ แก้ววงษ์บน อายุ 45 ปี ก่อเหตุใช้มีดทำร้ายนางสาววิรัญยา แก้ววงษ์บน อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นภรรยาเสียเสียชีวิต และนายวีระพงษ์ ยังทำร้ายนางบุญชู ทรงวิชา อายุ 64 ปี มารดานางสาววิรัญยา บาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่งหมู่ 7 ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา ต่อมาตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ. วังน้อย สืบทราบว่า หลังก่อเหตุนายวีระพงษ์ หลบหนีมาอยู่กับญาติที่ตำบลทับมา อำเภอเมืองจังหวัดระยอง จากนั้นตำรวจสืบสวน

สภ.วังน้อย จึงเดินทางมาที่จังหวัดระยอง กระทั้งพบตัวนายวีระพงษ์ กำลังขับรถยนต์เอนกประสงค์ สีดำ ออกจากตำบลทับมา มุ่งหน้านิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จากนั้นตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.วังน้อย จึงแจ้งตำรวจ สภ.มาบตาพุด ช่วยสกัดจับ หลังรับแจ้ง ตำรวจสายตรวจ สภ. มาบตาพุด จึงขับขี่รถจักรยานยนต์ไล่ติดตาม กระทั้งมาถึงบริเวณ บริเวณสี่แยกทุ่งสะเดา ตำรวจ สภ.มาบตาพุด จึงเรียกให้นายวีระพงษ์ หยุดรถจากนั้นตำรวจ สภ.วังน้อย และ ตำรวจ สภ.มาบตาพุด จึงเข้าปิดล้อมรถ และจับนายวีระพงษ์ ไว้ได้ พร้อมกับนำตัวมาที่ สภ.มาบตาพุด ทำประวัติและบันทึกจับกุม รวมทั้งลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน

ร้อยตำรวจเอกอภิเดช น้อยจำนง เปิดเผยว่า ใช้เวลา 2 วัน 3 คืน ติดตาม นายวีระพงษ์ ผู้ต้องหา จากกล้องวงจรปิดเส้นทางหลบหนี รวมทั้งประสานกับหน่วยต่างๆ กระทั้งพบว่านายวีรพงษ์ หลบหนีมาอยู่ระยอง ส่วนนายวีระพงษ์ ลงมือก่อเหตุ ฆ่าภรรยา และทำร้ายแม่ยาย สาหัส สาเหตุเกิดจากปัญหาครอบครัว

ก่อนทำการจับกุมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบสวนทราบว่านายวีระพงษ์ แก้ววงษ์บน อายุ ๔๕ ปี ผู้ต้องหาตาม หมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๖๖ ซึ่งต้องหาว่ากระทำ ความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่น ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ บุกรุกเคหสถานผู้อื่น โดยไม่มีเหตุอันสมควรเข้าไป โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธ ในเวลากลางคืน"หลังจากก่อเหตุ ได้หลบหนี มาพักอาศัยอยู่ใน พื้นที่ ต.มาบตาพุด อ.เมืองระยอง จ.ระยอง โดยใช้รถยนต์พาหนะยี่ห้อมิตซูบีชิ รุ่นปาเจโร่ สปอร์ต สีดำ

ต่อมาวันนี้ ๙ ก.ย.๖๖ เวลาประมาณ ๑๔.๓๐ น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบรถยนต์มิตชูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สีดำ ขับอยู่บนถนสุขุมวิทย์ ขับมุ่งหน้า อ.เมืองระยอง จ.ระยอง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด จับกุม สภ.วังน้อย จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มาบตาพุด เพื่อสกัดจับรถยนต์คันดังกล่าว และได้ขับรถ ติดตามไปจนถึงบริเวณ สี่แยกทุ่งสะเดา ถนนสุขุมวิทย ต.มาบตาพุด อ.เมืองระยอง จ.ระยอง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุดเพื่อทำการตรวจสอบ

โดยได้เรียกให้ผู้ขับขี่ลงจากรถยนต์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สอบถาม ชื่อ-นามสกุล รับว่าชื่อนายวีระพงษ์ แก้ววงษ์บน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงหมายจับ และอ่านข้อความในหมายจับให้ทราบ พร้อมทั้งส่งหมายจับให้นายวีระพงษ์ แก้ววงษ์บน ตรวจดู ซึ่งเมื่อนายวีระพงษ์ แก้ววงษ์บน ดูและได้อ่านข้อความในหมายจับแล้ว ยอมรับว่าตนเองเป็นบุคคลคนเดียวกับบุคคลตามหมายจับจริง และไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้แจ้งข้อกล่าวหา ฐานความผิด และสิทธิของผู้ถูกจับให้ทราบ และแจ้งด้วยว่าเขาต้องถูกจับและต้องไปยังที่ทำการของพนักงานสอบสวนแห่งท้องที่ที่ถูกจับพร้อมผู้จับ ผู้ถูกจับทราบและเข้าใจดี เจ้าพนักงานตำรวจที่ร่วมทำการจับกุมจึงได้ร่วมกันนำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ธนิทธิ ผิวงาม ทีมข่าวสยามนิวส์ จังหวัด จังหวัดระยอง