หนุ่มบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองห่างป้อมตำรวจ 20 เมตร โดนรวบทันควัน สารภาพตกงาน หาค่านมให้ลูกวัย 3 เดือน
หนุ่มตกงานบุกชิงทองร้านทองกลางเมืองสกลนคร ห่างป้อมยามตำรวจเพียง 20 เมตร ได้แหวนทองหนัก 2 สลึง ก่อนขี่รถ จยย.หลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจแกะรอยจากกล้องวงจรปิด ตามรวบตัวได้ทันควัน สารภาพตกงาน หาเงินใช้หนี้และหาค่านมให้ลูกวัย 3 เดือน
เหตุการณ์คนร้ายบุกเดี่ยวเข้าชิงทองร้านทองกลางเมืองสกลนครรายนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 14.40 น. วันที่ 1 ก.ย.66 ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในห้างทองพีทีโกลด์เยาวราช เลขที่ 1891/13 แยกถนนประชาราษฎร์ตัดถนนสุขเกษม ถนนคูเมือง ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมืองสกลนคร จ.สกลนคร บันทึกเหตุการณ์ขณะคนร้ายชายฉกรรจ์ ทำทีเข้ามาขอซื้อแหวนทองคำจากเจ้าของร้าน โดยทำทีเลือกและลองสวมแหวนหลายวง ก่อนสบโอกาสอาศัยจังหวะที่เจ้าของร้านเผลอวิ่งหลบหนีออกไป แล้วขึ้นขี่รถจักรยานยนต์สีน้ำเงินดำที่คนร้ายขี่มาหลบหนีไป ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดถูกกล้องวงจรปิดของร้านทองบันทึกไว้ได้
ต่อมาหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสกลนครได้รับแจ้งเหตุแล้ว ได้เข้าตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ โดยตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านทอง พบเบาะแสคนร้ายเป็นชายหนุ่มฉกรรจ์ สวมใส่เสื้อคอกลมแขนยาวสีเขียว ด้านหลังสกรีนคำว่า เป็นเอกวัสดุ และสวมกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน สภาพกางเกงที่สวมใส่มีร่องรอยของสีทาบ้านเปรอะเปื้อนอยู่ จึงสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะมีอาชีพเป็นคนงานก่อสร้าง จากการสืบสวนทราบว่าร้านเป็นเอกวัสดุ มีที่ตั้งอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดต่อกับเจ้าของร้าน ซึ่งยืนยันว่าชายที่ก่อเหตุและปรากฎภาพในกล้องวงจรปิดดังกล่าว คือ นายธำรงกุล ศรีนิล หรือ หยก เคยทำงานเป็นลูกจ้างเก่า และได้ลาออกไปแล้ว และติดตามภรรยาไปอยู่ที่จังหวัดสกลนคร โดยได้ให้สำเนาบัตรประชาชนของนายธำรงกุล หรือหยกฯ พร้อมหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ใช้
ต่อมาในวันที่ 2 ก.ย.66 เวลาประมาณ 08.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจนทราบว่านายธำรงกุลหรือหยก ได้มาพักอาศัยอยู่กับภรรยาใหม่ ชื่อ น.ส.ณัฏฐณิชา ประไกรวัน ซึ่งเพิ่งคลอดลูกชายได้ 3 เดือน ที่บ้านเลขที่ 387/42 ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมืองสกลนคร จ.สกลนคร และพบรถจักรยานยนต์ตำหนิรูปพรรณตรงกับคันที่คนร้ายใช้ก่อเหตุจอดอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม เบื้องต้นนายธำรงกุลรับสารภาพว่าได้เสพยาเสพติด(ยาบ้า)เพื่อย้อมใจ ก่อนเข้าก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์จากร้านทองที่เกิดเหตุจริง จึงได้นำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.เมืองสกลนคร และแจ้งข้อกล่าวหาว่า เสพยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย , เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1(เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย, วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดในการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม
จากนั้นเวลา 12.00 น. วันที่ 2 กันยายน 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสกลนคร นำโดย พ.ต.อ.ชัชวาลย์ ดวงแก้ว ผกก.สภ.เมืองสกลนคร พ.ต.ท.สิทธิพร อ่อนเฉย สว.สส.สภ.เมืองสกลนคร ชุดสืบสวน สภ.เมืองสกลนครควบคุมตัวนายธำรงกุลพาพนักงานสอบสวนไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ห้างทองพีทีโกลด์เยาวราชที่เกิดเหตุ โดยนายธำรงกุลเปิดเผยว่า สาเหตุที่ตัดสินใจก่อเหตุเนื่องจากตกงานไม่มีงานทำไม่มีเงิน ประกอบกับมีภรรยา 2 คน ลูกทั้งหมด 4 คน ภรรยาคนที่ 2 เพิ่งคลอดลูกชายคนที่ 4 ได้ 3 เดือน และถูกกดดันจากครอบครัวให้หาเงิน จึงก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์แหวนทอง แล้วเอาไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้าโรบินสันสกลนคร เพื่อนำเงินไว้ใช้จ่ายและส่งให้ครอบครัวใช้ ซึ่งทั้งหมดตัดสินใจโดยอารมณ์ชั่ววูบเนื่องจากความกดดันเท่านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยามาฮ่ารุ่นนินจา สีน้ำเงิน-ดำ ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านนางภัทรพร ลุก อายุ 59 ปี เจ้าของร้านทองพีทีโกลด์เยาวราช กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนอยู่ที่หน้าร้านเพียงคนเดียว ซึ่งปกติก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะมีคนมาก่อเหตุแบบนี้ เนื่องจากร้านทองของตนตั้งอยู่ตรงข้ามป้อมยามตำรวจ ห่างเพียง 20 เมตรเท่านั้น ซึ่งคนร้ายก็มีอาการปกติทุกอย่างเข้ามาทำทีเลือกซื้อแหวนทอง โดยเปลี่ยนลองสวมหลายวง จนกระทั่งได้แหวนที่พอดีกับนิ้ว ตนจึงบอกราคาและเตรียมจะออกใบรับประกันให้ ปรากฏว่าคนร้ายก็ฉวยโอกาสฉกแหวนทองวิ่งออกไปแล้วขี่จักรยานยนต์หลบหนีไปทันที ตนจึงรีบบอกลูกน้องให้วิ่งไปแจ้งตำรวจที่อยู่ในป้อมยามทันที ต้องขอขอบคุณและชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว
ข่าวโดย สุริยา แก้วก่า ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดสกลนคร