![ขมคอขึ้นมาทันที กิจกรรม ปาอึใส่ ดวงฤทธิ์ รับผิดชอบคำพูดการเมือง](data/news_data/picture_800/966899f.png)
ขมคอขึ้นมาทันที กิจกรรม ปาอึใส่ ดวงฤทธิ์ รับผิดชอบคำพูดการเมือง
จากกรณีที่นายดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิกและนักออกแบบชื่อดัง สมาชิกกลุ่มแคร์ เคยทวีตข้อความประกาศ ถ้าเพื่อไทยจับมือกับ พปชร. ผมจะยอมให้เอาขี้ปาหัว แล้วต่อมายังได้มายืนยันอีกว่า #เพื่อไทย จะตั้งรัฐบาลกับ #ก้าวไกล เท่านั้น ไม่มีการเปลี่ยนขั้วสลับข้างไปจับกับ ภูมิใจไทย+พปชร.+รทสช.แน่นอน เลิกปั่น เลิกฝันเพ้อเจ้อกันได้แล้วนะครับ ผิดไปจากนี้ ผมให้เอาขี้ปาหัว (อีกรอบ)” พร้อมย้ำพูดคำไหนคำนั้น ล่าสุดเมื่อเวลาบ่าย 3 โมง 14 นาที วันนี้ นายดวงฤทธิ์ ได้จัดกิจกรรมปาขี้ ขึ้นที่ Mirror Art ซอยแจ้งวัฒนะ 1 แยก 6
โดยให้ปาขี้ทั้งหมด 11 นาที พร้อมกับมีการแจกเอกสาร จดหมายจากดวงฤทธิ์ บุนนาค เพื่อชี้แจงเหตุผลของการจัดกิจกรรม ว่า เหตุผลในการลงมือทำสิ่งนี้ ก็เพียงเพื่อให้ตัวผมยังเท่ากับคำพูดของผม นอกจากนี้นายดวงฤทธิ์ ยังบอกด้วยว่า ตัวเองไม่ได้ทำสิ่งนี้จากจุดยืนทางการเมืองหรือความแค้นเคืองใดๆ แต่ต้องการแสดงออกเพื่อรักษาไว้ซึ่งอิสรภาพในการเป็นอิสรภาพในการแสดงออกของผม เพราะผมได้พูดในสิ่งที่ผมเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจ ว่า มันจะเกิดขึ้น เพียงเพราะผมอยากให้มันเกิดขึ้น และเมื่อมันไม่ได้เกิดขึ้นในวิธีที่ผมคาดหวัง ผมเองก็ผิดหวังเช่นเดียวกับผู้คนทั้งหลายเช่นกัน
ในจดหมายจากดวงฤทธิ์ ยังบอกด้วยว่า ในวิธีที่ผมมีอิสระในการแสดงออก และการแสดงออกของผมมีผลกระทบกับผู้คนหลายคนที่ตัดสินใจลงมือทำ บางอย่างอันมีเหตุมาจากสิ่งที่ผมพูด เชื่อว่ามันจะเป็นจริง เมื่อมันไม่ได้เป็นจริงเช่นนั้น ก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ได้พูดออกไป ในเงื่อนไขที่สร้าง ด้วยคำพูดที่ตัวเองพูด จึงต้องลงมือทำให้สอดคล้องกับคำพูดนั้น ในวิธีที่ยังทำให้ตัวผมยังคงอยู่ได้ในฐานะคำพูดของผม เป็นวิธีเดียวที่ยังทำให้ผมยังมีอิสระในคนที่ผมเป็นอยู่ได้
ขณะเดียวกัน จดหมายของดวงฤทธิ์ ยังระบุด้วยว่า ทุกคนที่ได้เข้ามาร่วมช่วยเหลือผมในการแสดงออกครั้งนี้ ล้วนได้ทำความเข้าใจอย่างชัดเจนในเหตุของการลงมือทำในครั้งนี้ มิได้มีเหตุมาจากการเมือง หรือความไม่พอใจใด ๆ ทุกคนมีส่วนร่วมในการแสดงออกนี้ด้วยเหตุเดียวคือต้องการสนับสนุนผมเพื่ออิสรภาพในการ "เป็น" ของผม อิสรภาพในการแสดงออกของผม และต้องการให้ผมยังคงอยู่ในฐานะคำพูดของผม สุดท้าย นายดวงฤทธิ์ ได้ขอบคุณในความเข้าใจ
และความห่วงใยที่ทุกคนมีให้ และขอบคุณในความเข้าใจของผู้คนที่อยู่รอบตัว ที่สนับสนุนการแสดงออกครั้งนี้ ด้วยความเข้าใจในความสำคัญของคำพูดที่มีต่อตัวตัวเอง และความสำคัญของคำพูดของตัวเองที่ก่อกำเนิดอยู่ในใจของผู้คน “ การแสดงออกของผมในครั้งนี้ไม่ใช่การจำนนต่อสถานการณ์
แต่เป็นการแสดงออกด้วยยินดี ในวิธีที่ผมจะได้ลงมือทำสอดคล้องกับคำพูดของตผม และจะทำให้ผมกลับมาเป็นตัวผมที่ครบถ้วนสมบูรณ์อีกครั้ง และยังคงไว้ซึ่งอิสรภาพที่เป็นอิสรภาพที่จะทำในคนที่ผมเป็น และนั่นเป็นสิ่งเดียวที่สำคัญ สิ่งเดียวที่ประสงค์ในเจตจำนงเสรีของชีวิต