ตม.เชียงราย ช่วยสาวอุบลฯพ้นดินแดนนรก เมืองป็อกเขตปกครองพิเศษในพม่า
เมื่อเวลา 10.30 น.(1 ก.ย.) ที่ ศูนย์สารสนเทศ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย อ.แม่สาย จว.เชียงราย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจคนเข้าเมือง สถานีตำรวจภูธรแม่สาย เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดเชียงราย สถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์จังหวัดเชียงราย ร่วมกันทีมสหวิชาชีพ ดำเนินการคัดแยกเหยื่อจากการค้ามนุษย์ตามขั้นตอนตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ หรือ NRM กรณีสืบเนื่องจากการประสานขอความช่วยเหลือ จากเพจ Ninja Today ในจังหวัดอุบลราชธานี ว่ามีบุคคลสัญชาติไทย รายนางสาว น้ำ นามสมมุติ อายุ 29 ปี ติดต่อขอความช่วยเหลือไปทางเพจ โดยแจ้งว่าตนถูกหลอกลวงและพาตัวไปขายให้กับนายทุนคนจีน และมีการบังคับให้ขายบริการให้กับพนักงานของบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับ Callcenter ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตปกครองพิเศษ รัฐฉาน ประเทศเมียนมา
หลังจากรับเรื่องทางเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อประสานงานเพื่อพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว จนมีการยืนยันว่า นางสาวเอ(นามสมมุติ)ถูกบังคับให้ค้าประเวณีอยู่ที่บริษัทคอลเซ็นเตอร์ในเมืองม้งหนึ่ง เขตรัฐฉาน ซึ่งเป็นบริษัทที่มีนายทุนคนจีน เป็นผู้บริหารกิจการ โดยนางสาวเอ(นามสมมุติ) ถูกบังคับให้ขายบริการทางเพศให้กับลูกค้าซึ่งเป็นพนักงานที่ถูกหลอกไปทำงาน CallCenter แห่งนั้นเช่นเดียวกัน ก่อนทำงานถูกบังคับให้ลงชื่อนายสัญญาจ้างงาน ซึ่งนางสาวน้ำ ไม่ทราบว่าสัญญาดังกล่าวมีรายละเอียดเป็นอย่างไร แต่จำใจที่จะต้องลงชื่อในสัญญาเนื่องจากถูกข่มขู่ว่าจะทำร้ายร่างกาย
นางสาวเอ(นามสมมุติ) เปิดเผยว่า ตนเองทำงานเป็น PR ร้านอาหารแห่งหนึ่งในกรุงเทพ จนช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา ได้มีผู้ใช้ TIKTOK รายหนึ่งติดต่อชักชวนให้ตนไปทำงาน PR เขตปกครองพิเศษเมืองป็อค โดยได้ค่าจ้าง 900 หยวน แบ่งกับทางร้านคนละ 450 หยวน ตนได้ปฏิเสธไปแล้วหลายครั้ง จนกระทั่งถึงช่วงเดือนมิถุนายนผู้ใช้รายเดิมได้ติดต่อมาอีกครั้งบอกว่าไม่มีคนทำงานขอให้ลองมาทำดูก่อนหากไม่พอใจค่อยกลับ
ตนจึงได้เดินทางไปยังจังหวัดเชียงราย และเดินทางออกไปนอกประเทศ ผ่านทางพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยมีผู้ติดต่องาน เป็นผู้ประสานงานในการเดินทางให้ โดยได้ว่าจ้างคนนำพาออกไปนอกประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติ ซึ่งไม่ใช่เป็นช่องทางเดินทางออกที่ถูกต้องตามกฎหมาย จากนั้นได้ข้ามไปยังพื้นที่จังหวัดท่าขี้เหล็กก่อนจะมีคนรับตัว พานั่งซ้อยท้ายรถ จยย. ไปพักที่จังหวัดเชียงตุง ประเทศเมียนมา ก่อนจะถูกนายทุนมาซื้อตัวไปยังบริษัทคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นอาคารสี่เหลี่ยม 2 ชั้น มีลูกกรงเหล็กทั้งอาคาร และยังมีลวดหนามหีบเพลงล้อมรอบด้านรวมทั้งหลังคาอาคาร เพื่อให้เป็นที่พักและขายบริการกับพนักงานในบริษัทซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นบุคคลสัญชาติจีน ซึ่งถูกหลอกไปทำงานที่บริษัทแห่งนั้นเช่นเดียวกัน
นางสาวเอ(นามสมมุติ) ยังเล่าอีกว่า เมื่อไปถึงตนถูกจับเซ็นต์สัญญาทำงาน 6 เดือน โดยที่สัญญาเป็นภาษาจีนอ่านไม่ออกไม่รู้ข้อความในหนังสือดังกล่าวระบุอะไร เมื่อตนไม่ยอมเซ็นต์ก็ถูก ทุบตี จนได้รับบาดเจ็บจนต้องยอมพิมพ์ลายนิ้วมือในสัญญาและเริ่มให้รับแขกทันที เมื่อตนไม่ยอมรับแขกก็ถูกเถ้าแก่คนจีนจับใส่กุญแจมือคล้องกับลูกกรงของอาคารแล้วใช้ไม้ตีหลัง เอาไฟฟ้าช็อต และเอาน้ำกรอกปาก อดข้าว 3 วัน ยึดมือถือ (มือถือไม่สามารถใช้ได้เนื่องจากไม่มีสัญญาณ)
ตลอดระยะเวลาที่ถูกกักบริเวณทำงานอยู่ในบริษัทดังกล่าว พนักงานหญิงทุกคนตกอยู่ในสภาพบังคับที่ไม่สามารถขัดขืนได้ โดยจะต้องทำงานแลกกับการไม่ถูกกดขี่ ทารุณ ไม่ถูกทำร้าย และเพื่อให้สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ วันต่อวัน ระหว่างนั้นก็นางสาวน้ำ ก็พยายามหาช่องทางติดต่อขอความช่วยเหลือมายังประเทศไทย จากนั้นก็พบข่าวการขอความช่วยเหลือของเพจ Ninja Today ซึ่งได้นำเสนอข้อมูลการช่วยเหลือคนไทยที่ถูกหลอกลวงไปบังคับค้าประเวณีเช่นเดียวกับตน จากนั้นก็ได้รับการติดต่อกลับจากทางแอดมินของเพจและขอข้อมูลจนมั่นใจและหาทางช่วยเหลือจนกระทั่งมีการเจรจาของไถ่ถอนตัว และนำตัวตนเองกลับมายังประเทศไทยได้เป็นผลสำเร็จเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ.2566 และได้เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูสภาพจิตใจเบื้องต้น เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่กระบวนการคัดแยกเหยื่อจากการค้ามนุษย์ตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ
ต่อมาเมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2566 เวลา 10.00 น. ที่ ศูนย์สารสนเทศ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย อ.แม่สาย จว.เชียงราย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจคนเข้าเมือง สถานีตำรวจภูธรแม่สาย เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดเชียงราย สถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์จังหวัดเชียงราย ร่วมกันทีมสหวิชาชีพ ดำเนินการคัดแยกเหยื่อจากการค้ามนุษย์ตามขั้นตอนตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ หรือ NRM ได้ร่วมกันสัมภาษณ์คัดกรองและลงความเห็นว่า นางสาวน้ำฯ เข้าข่ายเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์ เนื่องจากถูกกระทำการ หรือไม่กระทำการในลักษณะที่เข้าองค์ประกอบการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ จากนั้นได้ร่วมกันแจ้งสิทธิ และคุ้มครองสิทธิตามกฎหมายต่อไป
นางสาวเอ(นามสมมุติ) กล่าวด้วยน้ำตาว่า ขอเตือนไปยังคนไทยคนอื่นๆ อย่าเชื่อการชักชวนให้ไปทำงานที่ต่างประเทศ โดยการออกอุบายชี้นำว่างานดังกล่าวมีรายได้สูง ความเป็นอยู่สบาย มีการดูแลค่าใช้จ่ายในการเดินทาง หรือมีการอำนวยความสะดวกในเรื่องความเป็นอยู่ เพราะถ้าหาก เพราะว่าไปแล้วจะได้กลับออกมาง่าย เงินไม่สามารถซื้ออะไรได้ทุกอย่าง
ขณะที่แหล่งข่าวในพื้นที่ในการปราบปรามการค้ามนุษย์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันกลุ่มมิจฉาชีพจะมีวิธีการชักชวนเหยื่อผ่านแอปพลิเคชั่นทางมือถือ โดยแอปพลิเคชั่นยอดนิยมในตอนนี้คือ Tiktok รองลงมาก็คือ เฟซบุ๊ก และยังมีการแชร์ข้อความชักชวนผ่านทางกลุ่มไลน์ของผู้ที่ทำงานพีอาร์ หรือร้านอาหาร ซึ่งในกลุ่มคนทำงานประเภทนี้ก็จะมีกลุ่มสมาชิก ซึ่งมักจะมีแอดมินหรือคนที่มีบทบาทในกลุ่ม ทำหน้าที่แชร์โพสต์โฆษณาเชิญชวนการไปทำงานลักษณะนี้ ซึ่งจุดสังเกตุที่มิจฉาชีพใช้เชิญชวนก็มักจะบอกว่าเป็นงานที่มีรายได้สูง ประมาณหลักแสนต่อเดือน มีที่พัก มีอาหาร และนายจ้างมีค่าเดินทางให้
ทำให้ผู้ที่หลงเชื่อก็จะคิดว่าไม่มีต้นทุนในการไปทำงานใดๆ แค่สมัครใจไปทำงานเขาก็จะมีรายได้ที่ดี มีที่พัก มีอาหารการกิน และสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมสรรพ แต่พอถึงจุดที่จะเดินทางออกนอกราชอาณาจักรก็จะได้รับแจ้งว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคระหว่างทาง เช่น แจ้งว่าไม่สามารถเดินทางออกอย่างถูกต้องตามกฏหมายได้ สำหรับรายของนางสาวน้ำนั้น ทางผู้ติดต่อแจ้งว่า สถานที่ทำงานอยู่ไกลจากประเทศไทยมาก ไม่สะดวกในการเดินทางกลับไทย ทุก ๗ วัน ซึ่งโดยปกติในการเดินทางออกไปนอกประเทศของคนไทยโดยใช้บัตรผ่านแดน จะสามารถพำนักอยู่ในประเทศพม่าได้ไม่เกิน 7 วัน จึงจำเป็นที่จะต้องเดินทางออกไปนอกประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติ เมื่อเหยื่อตัดสินใจที่จะลักลอบข้ามออกไปนอกประเทศไทยไปแล้ว ก็จะพบกับปัญหาในการเดินทางที่ลำบาก มีระยะทางไกล เส้นทางเสี่ยงอันตราย ทำให้คนที่ตกเป็นเหยื่อก็จะตกอยู่ในสภาพถูกบังคับ ไม่สามารถที่จะขัดขืนได้ ต้องให้ความยินยอมร่วมมือและเดินทางไปจนถึงปลายทาง พอถึงปลายทางก็จะตกอยู่ในสภาพโดนบังคับ ไม่สามารถที่จะขัดขืนใดๆได้ ซึ่งงานส่วนใหญ่ก็จะเป็นงานที่มีนายจ้างชาวจีนเป็นเจ้าของกิจการ โดยส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในพื้นที่ของเขตปกครองพิเศษ เนื่องจาก เป็นพื้นที่ปกครองตนเอง มีการตั้งกฎระเบียบเป็นการเฉพาะสำหรับแต่ละพื้นที่ จึงเป็นการยากในการใช้กฎหมายของประเทศนั้นๆ บังคับ และยากในการเข้าถึงสถานที่ที่เหยื่อถูกกักตัวอยู่
จากการหารือร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีข้อมูลว่ามีคนไทยที่ตกอยู่ในสภาพถูกหลอกบังคับทำงาน ทั้งในลักษณะงานค้าบริการ ค้าประเวณี พนันออนไลน์ การบังคับทำงานหนักโดยไม่มีค่าจ้าง หรือทำงานคอลเซ็นเตอร์ มีการขอความช่วยเหลือผ่านทางมูลนิธิหรือหน่วยงานต่างๆ มีไม่น้อยกว่า 150 ราย ซึ่งกระบวนการช่วยเหลือผ่านหน่วยงานของรัฐต่อรัฐ จะใช้เวลาค่อนข้างนาน เพราะระบบการประสานงานทางราชการมีหลายระดับ มีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรับผิดชอบในเรื่องดังกล่าว วิธีการแก้ไขปัญหาจึงจำเป็นที่จะต้องดำเนินการในมิติของการป้องกัน สร้างความตระหนักรู้ให้คนไทยที่จะตัดสินใจไปทำงาน ซึ่งมีลักษณะงานเช่นเดียวกับที่กล่าวมาข้างต้น ให้รู้เท่าทันกลอุบายของกลุ่มมิจฉาชีพที่แสวงหาประโยชน์จากผู้ที่ต้องการจะเดินทางไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน อย่าหลงเชื่อในคำโฆษณาชักชวน เพราะเมื่อหลงเชื่อเดินทางไปกับกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่งเพื่อไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้านโดยในกระบวนการของการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ มีคนอื่นเป็นผู้จัดการประสานงานให้ เพราะมีโอกาสอย่างมากที่จะเป็นการหลอกลวงไปทำงาน
ข่าวโดย วินัย ไชยสถาน ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดเชียงราย