จากกรณี นายพุฒ วิถี อายุ 52 ปี ผู้พิการเป็นใบ้หูหนวก ชาวบ้านป่าชาด หมู่ 12 ต.โพนยาง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ หายออกจากบ้านนาน 3 วัน 2 คืน ไม่รู้ชะตากรรม โดยญาติและชาวบ้านต่างพากันระดมค้นหาทั้งวันทั้งคืนแต่ก็ไม่พบ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2566 นายสัน วิถี อายุ 53 ปี พี่ชายของ นายพุฒ ผู้สูญหาย ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อช่วงค่ำวานนี้ วันที่ 31 ส.ค. 2566 มีพลเมืองดีพบเห็น นายพุฒ กำลังเดินอยู่บนถนนลาดยาง มุ่งหน้าไปทางเทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ ต.ดงรัก อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ จึงได้โทรศัพท์มาแจ้งกับทางญาติตามเบอร์โทรศัพท์ที่ปรากฎในสื่อหลายสำนักนำเสนอ พร้อมแอดไลน์ส่งรูปภาพมาให้ญาติดู ปรากฏว่าเป็นน้องชายตนที่หายตัวไปจริงๆ จากนั้นจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.วังหิน เพื่อขอความช่วยเหลือนำรถไปรับกลับบ้านในวันดังกล่าว เมื่อกลับมาถึงบ้านญาติพี่น้องและชาวบ้านต่างแห่มาผู้ข้อต่อแขนเพื่อเรียกขวัญ นายพุฒ เป็นจำนวนมาก จนแน่นขนัด

นายสัน กล่าวว่า หลังทราบข่าวว่านายพุฒ หายตัวออกจากบ้าน ญาติพี่น้องรวมทั้งชาวบ้านทุกคนต่างพากันรู้สึกเป็นห่วง เพราะเป็นผู้พิการ ทั้งเป็นใบ้ และหูหนวก พูดไม่ได้ เรียกก็ไม่ได้ยิน มีการค้นหาแบบปูพรหมทั้งวันทั้งคืน ติดต่อกัน 3 วัน จนรู้สึกหมดหวัง อัดอั้นตันใจเป็นห่วงน้องชาย แต่ได้แต่ทำใจ กระทั่งช่วงบ่ายวานนี้ (31 ส.ค. 2566) ได้มีพลเมืองดีโทรศัพท์มาแจ้งว่าพบ นายพุฒ ผู้สูญหาย แล้ว ทุกคนต่างรู้สึกตื่นเต้นดีใจ มีความหวังขึ้นมาทันที จากการสอบถามเป็นภาษามือ ก็ทราบว่า นายพุฒ ได้เดินหลงป่าไปเรื่อย โดยไม่รู้เส้นทางกลับบ้าน จึงไปโผล่ที่ อ.ภูสิงห์ ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยไม่รู้ตัว ซึ่งห่างจากหมู่บ้านที่สูญหาย ระยะทางประมาณกว่า 50 กิโลเมตร ทั้งนี้ นายพุฒ ได้ยกมือไหว้แสดงความขอบคุณทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือ และเป็นห่วงเป็นใยตามหาตนจนพบ และนำพากลับบ้านได้อย่างปลอดภัยด้วย

ทีมข่าวสยามนิวส์ จ.ศรีสะเกษ รานงาน