สังคมต้องรับรู้ หยก เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นในโรงเรียน ไม่น่าเชื่อว่าประเทศยังมี รร. แบบนี้อยู่

สังคมต้องรับรู้ หยก เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นในโรงเรียน ไม่น่าเชื่อว่าประเทศยังมี รร. แบบนี้อยู่

วานนี้ (29 ส.ค. 2566) น.ส.ธนลภย์ หรือหยก เยาวชนนักเคลื่อนไหวทางการเมืองวัย 15 ปี ได้ทำการโพสต์เฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า ถ้าใครตามข่าวจะจำได้ว่าโรงเรียนเคยไปร่วมประชุมที่กระทรวง พม. (โดยไม่มีเรา) และถ้าใครจำได้ ผอ.โรงเรียนของเราเคยไปร้อง ส.ว. ขอให้คุ้มครองนักเรียนคนอื่นจากเรา มีการให้ข่าวกับสังคมไทยด้วยว่าเราทำให้เพื่อนนักเรียนวิตก หวาดกลัว เรียนไม่ได้

ตอนประชุมเสร็จที่ พม. เรายังจำได้ดี นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) แถลงข่าวหลังการประชุม พูดคำว่า คุณครูห่วงใยเด็กมาก รักเหมือนลูกของตัวเอง และเราเชื่อว่าหากมีความรักความเข้าใจ สถานการณ์ก็จะคลี่คลาย เราจึงได้อาสาเป็นสื่อกลางเพื่อรับฟังทุกฝ่าย ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จะไม่พิพากษา และจะหาทางออกให้ดีที่สุด

ในวันนี้ เราจะขอกล่าวโดยสรุปว่า มาจนถึงวันนี้เป็นที่สรุปได้แล้วว่า ตั้งแต่ศาลส่งเราเข้าคุก โรงเรียนไม่เคยช่วยเหลืออะไรเรา และโรงเรียนไม่เคยอยากให้เราเป็นนักเรียนในโรงเรียนนี้ แต่โรงเรียนไม่ยอมรับที่จะพูดออกมาตรง ๆ มีแต่อ้างว่าเราผิด เราทำไม่ถูก และผลักไสเราด้วยการกระทำ และงดการกระทำหลายอย่าง

1. เรายืนยันว่าเราจ่ายค่าเทอมแล้ว เรามีสิทธิเรียน โรงเรียนไม่เคยมีหนังสือแจ้งเรา ไม่เคยเรียกเราไปคุยหาทางออก โรงเรียนมีแต่ไปคุยกับคนนอกและให้ข่าวกับคนนอก ส่วนในส่วนของเราโรงเรียนก็ปล่อยให้เข้าเรียนเข้าสอบเหมือนทำลืม ๆ ซุกฝุ่นขยะอยู่ใต้พรม มีบ้างที่ครูมาพูด หรือมีบุคลากรกระแนะกระแหน แต่ท้ายที่สุดคือให้เราเรียนและสอบ ไม่เคยแจ้งอะไรต่อเรา

2. นอกจากป่าวประกาศกับสังคมแล้ว ว่า เราไม่ใช่นักเรียน โรงเรียนไม่เคยแจ้งอะไรเรา เราไม่เคยได้กระดาษซักแผ่น เรายังไปเรียน ไปสอบ หลังสอบเราปิดเทอม 10 ตุลาคม เปิดเทอมอีกที 30 ตุลาคม และในวันที่ 31 วันสุดท้ายของเดือนนี้ เราจะต้องไปค่ายจีน ของสาขาศิลป์จีน ปรากฎว่าครูไม่ให้เราไปค่าย เพราะบอกว่า มีการจ่ายเงินค่าเทอมคืนเรามาแล้ว และไม่มีเงินมาจ่ายค่าค่าย ค่าอุปกรณ์ค่ายต่าง ๆ ให้เรา เราจะไม่ได้ไป นอกจากนั้น เมื่อเราขอผลสอบเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว วันนี้ครูได้แจ้งเราว่าเราจะไม่มีผลสอบ ฝ่ายวิชาการจะไม่ออกให้ และที่ผ่านมาเป็นการทำเพื่อรอส่งเราไป ที่อื่น เท่านั้น

เรารู้สึกตกใจ ผิดหวัง และประหลาดใจไม่น่าเชื่อว่าในประเทศไทย พ.ศ. 2566 มันมีโรงเรียนแบบนี้อยู่ และเป็นโรงเรียนรัฐ และเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่ทำกันได้เหมือนเป็นเรื่องปกติ ผู้ใหญ่ที่เรารู้จักบอกเราว่าเรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องปกติ ที่จริงถ้าเป็นโลกอื่นประชาชนจะตกใจและประณามมาก แต่บางทีพอต่อสู้เพื่อสิทธิเล็ก ๆ น้อย ๆ ตั้งแต่สิทธิที่ดูไร้ค่าเช่นสิทธิทางการศึกษาไปจนถึงสิทธิในการไม่ถูกคุกคามทุกวัน เราก็เลยเริ่มชินนิดหน่อย

เราคุยกับพี่บุ้งผู้ปกครองแล้ว พวกเราไปเช็คกันปรากฎว่าได้มีการโอนเงินคืนมาเงียบๆ แล้วโดยเราไม่รู้ ในบัญชีที่เราไม่ได้ใช้ ซึ่งโรงเรียนไม่เคยแจ้งและไม่เคยบอกอะไรเรา ทำเงียบ ๆ ซุกซ่อน เรากับพี่บุ้งคิดว่า เรื่องนี้ไม่ควรจะทำได้ สิ่งที่โรงเรียนทำมันประหลาดมาก ๆ ดูไม่เปิดเผยไม่ซื่อสัตย์ ไม่จริงใจ ไม่มีวุฒิภาวะแบบที่โรงเรียนซึ่งเป็นที่ให้การศึกษามนุษย์พึงมี เราบอกพี่บุ้งว่าจะยังไปค่าย เราคิดว่าเราไปจะไปตามสิทธิของเรา เรื่องของเราเราควรมีส่วนร่วมโรงเรียนจะทำเงียบๆลืมๆเหมือนเราเป็นขยะไม่ได้ เราเป็นคน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ