วานนี้ (26 สิงหาคม 2566) พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ สมกิจศิริ ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ เจ้าพนักงานตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ภานุวัฒน์ มากมูล รอง ผกก.สส.สภ.เมืองบุรีรัมย์ นำหมายศาลจังหวัดรัตนบุรี จ.สุรินทร์ เข้าควบคุมตัว นายสมบูรณ์ ยือรัมย์ อายุ 49 ปี และนางสาวกมลพร อัญชลี อายุ 39 ปี ระหว่างขับรถยี่ห้อฟอร์ด เอเวอร์เรส ป้ายแดง-สีขาว เดินทางเข้าพื้นที่ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์

โดยทั้งสองตกเป็นผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลจังหวัดรัตนบุรี ที่ 82/2566 ลงวันที่ 23 ส.ค.2566 ในหลายข้อหา ประกอบด้วย

- ร่วมกันชิงทรัพย์

- ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่น

- ข่มขู่ใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำนนต่อสิ่งใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สิน ของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น 

- พาอาวุธ (สนับมือ) ไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุอันควร

จากนั้นผู้ต้องหาได้ถูกนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองบัว อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ ปรากฏว่า ได้มีผู้เสียหายซึ่งเป็นชาวบ้านทั่วไปที่แจ้งความจับนายสมบูรณ์ เดินทางมารอที่ สภ.เมืองบัว ประมาณ 20 คน เพื่อต้องการเห็นหน้าและขอร่วมค้านการประกันตัว เพราะเกรงว่านายสมบูรณ์ จะกลับไปก่อเหตุหลอกลงชาวบ้านอีก

โดย นายสัญญา โอดเปี้ย อายุ 48 ปี ผู้เสียหาย ชาวบุรีรัมย์ กล่าวว่า ตนเองโดนหลอกซื้อรถตู้ รถแบ็คโฮ และรถเทเลอร์ รวม 3 คัน ตกลงราคา 1,900,000 บาท แต่ได้เงินมาเพียง 80,000 บาท แล้วนายสมบูรณ์ ได้โยกรถหนีไปจากเต็นท์ และปฏิเสธการจ่ายเงินที่เหลือ ทั้งที่ยังไม่ได้เซ็นต์ชุดโอนให้

จนกระทั่งต่อมา พบรถตู้ของตนจอดอยู่หน้าเต็นท์รถ จึงแจ้งตำรวจ สภ.สตึก โดยตำรวจแจ้งมาว่า ถ้ามั่นใจว่าเป็นรถของตนเองให้ขับรถออกมาเลย จึงใช้กุญแจสำรองขึ้นรถขับออกจากเต็นท์ จากนั้นนายสมบูรณ์ กับลูกน้องรวม 3 คน ขับรถตามมาทัน แล้วลงมารุมทำร้ายตน และชิงเอารถไป

โดย นายสมบูรณ์ มีคดีใหม่ที่ชาวบ้านแจ้งความเอาผิดไว้อีกกว่า 20 คดี จากเมื่อครั้ง บิ๊กโจ๊ก (พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล) เดินทางมาดูคดี ตอนนั้นก็มีคดีแล้วกว่า 200 คดี แต่หลังจากนั้นแต่ละคดีอัยการตีสำนวนกลับเป็นจำนวนมาก แถม นายสมบูรณ์ ยังเคยประกาศไว้ว่าในพื้นที่เขตนี้ (ตร.ภาค 3) ไม่มีใครกล้าทำอะไรได้ แต่แล้วก็เป็นจริง จึงอยากจะให้กระบวนการยุติธรรม ทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน