วันนี้ (25 ส.ค. 2566) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้มีการเปิดเผยหลังหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 66 ที่ผ่านมา เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาการซื้อโฆษณาผ่านเฟซบุ๊ก เพื่อหลอกหลวงประชาชนให้ลงทุน โดยอ้างใช้ชื่อบริษัทจดทะเบียน สัญลักษณ์ของ ก.ล.ต. ทำการปลอมโปรไฟล์เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง โดยไม่ได้รับอนุญาต

นั่นทำให้ ทางกระทรวงดีอีเอส จึงมีการส่งหนังสือขอให้ Meta บริษัทแม่ของแพลตฟอร์ม Facebook แก้ไขปัญหาดังกล่าว เนื่องจากมีการซื้อขายโฆษณาบนเฟซบุ๊ก และส่งข้อมูลให้เฟซบุ๊ก ทำการปิดกั้นโฆษณาหลอกลวงไปแล้วกว่า 5,301 โฆษณา/เพจปลอม ด้วย

ตอนนี้เฟซบุ๊กยังไม่เข้าพบ ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะใช้เวลาภายในกี่วัน เพราะทุกอย่างดำเนินการตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้บริหารส่งข้อมูลแล้ว เป็นเรื่องของกระบวนการตามกฎหมายที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ต้องรอดูอีกครั้งและจะแถลงการณ์ออกไป

ไม่มีใครทราบว่า หากสั่งปิดแพลตฟอร์มชื่อดังนี้แล้ว แต่ละเพจ แต่ละเฟซบุ๊กจะได้รับผลกระทบอย่างไร เพราะต้องส่งเรื่องไปที่ศาลก่อน จากนั้นศาลจะกำหนดมาตรการออกมาว่าเป็นอย่างไร เราใช้อำนาจตามกฎหมาย เพราะที่ผ่านมาเขาไม่ให้ความร่วมมือ คนโดนหลอกเยอะมาก ผมปวดหัวมาก เจอคนโทรมาร้องเรียนทุกวัน เพื่อน ๆ และคนใกล้ตัวก็โดนเหมือนกันหมด

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายชัยวุฒิ เผยว่า จะขอให้ศาลสั่งปิดเฟซบุ๊ก ภายในสิ้นเดือน ส.ค. 66 นี้ และขอให้ศาลสั่งปิดภายใน 7 วัน เพราะเฟซบุ๊กเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพลงโฆษณา หลอกลวงประชาชน ที่ผ่านมามีผู้เสียหายกว่า 200,000 รายหรือประมาณ 95% จาก 300,000 ราย เสียหายกว่า 10,000 ล้านบาท เมื่อเฟซบุ๊กทำธุรกิจในไทยแต่ไม่ช่วยเหลือ และไม่สกรีนผู้มาลงโฆษณา ทำให้ประชาชนเดือดร้อน ก็ต้องรับผิดชอบ เพราะมูลค่าความเสียหายกว่า 100,000 ล้านบาท