สว. ฝั่งลุงป้อม เคือง เพื่อไทย แบ่งโควตา รมต.น้อย อาจจะไม่โหวต เศรษฐา
เมื่อวันที่ 21 ส.ค.66 มีรายงานว่า ในส่วนของการโหวตนายกรัฐมนตรีวันที่ 22 ส.ค. ที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล สามารถรวบรวมเสียงได้แล้ว 314 เสียง ยังขาดอยู่ 61 เสียง จึงได้เสียงครบกึ่งหนึ่ง 375 เสียง เพื่อส่งนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้สำเร็จนั้น โดยต้องลุ้นว่าจะมีเสียงสว.สนับสนุนให้อีก 61 เสียงหรือไม่
แต่ขณะนี้ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า จะมีเสียงสว.โหวตสนับสนุนนายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ครบตามจำนวน 375 เสียงแน่นอน หลังจากพรรคร่วมรัฐบาลสามารถตกลงโควตาครม.กันได้ลงตัว
โดยสว.ในซีกของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีอยู่ประมาณ 120-150 เสียง พร้อมโหวตสนับสนุนนายเศรษฐา เนื่องจากพอใจในโควตารัฐมนตรีที่พรรคร่วมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ได้รับ 4 ที่นั่ง เป็นรัฐมนตรีว่าการ 2 ที่นั่ง และรัฐมนตรีช่วย 2 ที่นั่ง จากจำนวนสส. 36 เสียง
แต่การแบ่งโควตารัฐมนตรีดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่มีส.ส.40 เสียง แต่กลับได้โควตารัฐมนตรี 4 ที่นั่ง เท่ากับพรรครวมไทยสร้างชาติ ทั้งที่พรรครวมไทยสร้างชาติมีสส.น้อยกว่าพรรคพลังประชารัฐ 4 เสียง อีกทั้งยังไม่ตรงกับข้อตกลงที่เคยรับปากพรรคพลังประชารัฐจะได้โควตารัฐมนตรี 5 ที่นั่ง ดังนั้นการโหวตสนับสนุนนายเศรษฐาเป็นนายกฯนั้น สว.ในซีกของพล.อ.ประวิตร อาจจะโหวตสนับสนุนนายเศรษฐาไม่เต็ม 100 %
โดยสว.ส่วนหนึ่งจะโหวตงดออกเสียง หรือไม่เห็นชอบ แต่บางคนจะโหวตเห็นชอบ เพราะกังวลสังคมจะตั้งคำถามว่า เหตุใดไม่โหวตให้พรรคเพื่อไทย ทั้งที่พรรคเพื่อไทยไม่ได้มีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลแล้ว อย่างไรก็ตามเสียงสว.ในซีกพล.อ.ประยุทธ์เพียงลุงเดียวก็มีเพียงพอที่จะสนับสนุนนายเศรษฐาเป็นนายกฯ แล้ว ทำให้การันตีว่านายเศรษฐาจะได้รับเสียงเพียงพอในการดำรงตำแหน่งนายกฯคนที่ 30 วันที่ 22 ส.ค.