ใครเห็นก็ว่าไม่รอด หนุ่มควบปิกอัพเหยียบมิดไมล์ ชนท้ายสิบล้อเหลือแต่ซากรอดปาฏิหาริย์

ใครเห็นก็ว่าไม่รอด หนุ่มควบปิกอัพเหยียบมิดไมล์ ชนท้ายสิบล้อเหลือแต่ซากรอดปาฏิหาริย์

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ร.ต.ต.คะนอง เรียนสุด หัวหน้าสายตรวจตำบลเขาพระทอง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.คืนที่ผ่านมา (18 ส.ค.) ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถยนต์ชนท้ายรถบบรทุกพ่วง 18 ล้อ เหตุเกิดบนถนนเอเชีย 41 ฝั่งขาขึ้น บริเวณเลยยูเทิร์นวัดโคกประดู่ไปประมาณ 50 เมตร หมู่ 2 ต.เขาพระทอง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดคาซากรถ จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยในพื้นที่ฯ และเจ้าหน้าตำรวจ รวมทั้งผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ที่ร่วมปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย รีบรุดเดินทางไปตรวจสอบและช่วยเหลือ

ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้อ โตโยต้า 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 8 กฐ-1763 นครศรีธรรมราช ชนท้ายรถบรรทุกพ่วงยี่ห้อฮีโน่ สีน้ำเงิน ทะเบียน 70-3682 ปทุมธานี จนรถกระบะพลิกตะแคงอยู่กลางถนน สภาพพังเสียหายยับเยิน โดยเฉพาะด้านหน้ารถตั้งแต่หน้ากระโปรงจนถึงกระบะยุบและยับยู่ยี่เป็นเศษเหล็ก และเกิดประกายไฟลุกลามเลกน้อย เจ้าหน้าที่ช่วยกันดับและถอดขั้วแบตเตอรี่ออก และยังในรถกระบะตรงที่นั่งคนขับพบผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ 1 คน ยังมีสติพูดได้และร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องระดมกำลังใช้เครื่องตัดถ่างจนสามารถนำผู้บาดเจ็บออกมาจากภายในรถได้อย่างทุลักทุเลนำส่ง รพ.ชะอวด ในเบื้องต้นทราบชื่อนายสำราญ ตำปาน อายุ 47 ปี บ้านอยู่หมู่ 2 ต.เขาพระทอง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ได้รับบาดเจ็บศรีษะแตกขาหัก จึงนำส่งต่อไปยัง รพ.มหาราช

ร.ต.ต.คะนอง เรียนสุด พร้อมพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบและทำแผนที่ในที่เกิดเหตุ โดยลากซากรถกระบะเข้าขางทางเพื่อปองกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำ และเชิญตัวคนขับรถบรรทุกพ่วงคู่กรณีไปสอบสวนปากคำที่ สภ.ชะอวด ซึ่งคนขับรถบรรทุกพ่วง ให้การว่าตนขับรถพ่วงบรรทุกเหล็กเต็มรถจาก อ.หาดใหญ่ มุ่งหน้าไปส่งที่ปลายทมาง จ.สมุทรปราการ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจนท้ายรถพ่วงจนสั่นสะเทือนรถเสียหลักเล็กน้อย จึงนำรถเข้าจอดวิดซ้ายและลงไปตรวจสอบพบว่ามีรถกระบะมาจนท้ายรถบรรทุกพ่วงของตน จนรถกระบะเสียหลักพลิกหงายพังยับยู่ยี่ และพบคนขับรถยนต์กระบะติดอยู่ในซากรถ จึงพยายามที่จะช่วยเหลือแต่ไม่สามารถนำร่างออกมาจากรถได้ จนกระทั้งมีเจ้าหนาที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัย (ฯเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุดังกล่าว

ร.ต.ต.คะนอง เรียนสุด กล่าวอีกว่า ตนและเจ้าหน้าที่อยู่อำนวยความสะดวกอยู่ในจุดที่เกิดเหตุหลายชั่วโมง โดยหลังจากที่ญาติ ๆ ของนายสำราญ ผู้บาดเจ็บทราบข่าวก็เดินทางมายังมาที่เกิดเหตุ ตรวจสอบภายในรถพบว่าเข็มไมล์ความเร็วตีขึ้นไปค้างอยู่ในจุดสูงสุด สอดคล้องกับคำให้การของนายสำราญ ผู้บาดเจ็บว่าขับรถออกมากจากแยกควนลาไม เมื่อออกมาสู่ถนนเอเซีย 41 ได้เหยียบคันเร่งทำความเร็วเต็มที่ จนเมื่อมาจ่อท้ายรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อในระยะกระชันชิดพยายามเบรกแต่ไม่อยู่จึงพุ่งชนเสยท้ายรถบรรทุกพ่วงอย่างจัง ทำให้รถยนต์กระบะดานหน้าพังยับยู่ยี่ พลิกตะแคงนายสำราญ ผู้บาดเจ็บติดคาซากรถและได้รับการช่วยเหลือนำส่ง รพ.ดังกล่าว

ดูตามสภาพรถยนต์กระบะที่พังยับเยินยู่ยี่แล้ว ไม่น่าจะมีสิ่งมีชีวิตใด ๆ ที่นางมาในรถด้านหน้าจะรอดชีวิตมาได้ แต่นายสำราญ คนขับรถแค่ได้รับบาดเจ็บไม่มากนักมันเป็นปาฏิหาริย์เหลือเชื่อจริง ๆ ตนและนายสำราญ ผู้บาดเจ็บรวมทั้งทุกคนที่เห็นเหตุการณ์และสภาพรถยนต์กระบะ เชื่อว่านายสำราญ รอดตายมาได้เพราะบารมีหลวงพ่อองค์ใหญ่ อายุกว่า 800 ปี วัดเขาพระทอง อ.ชะอวด จ.นครศรีงธรรมราช ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างเป็นพระบูชาขนาดเล็กสำหรับตั้วหน้ารถ โดยเมื่อคืนมีญาติ ๆ ของนายสำราญ ที่มายังที่เกิดเหตุ ได้เก็บหลวงพ่อองค์ใหญ่ที่ตั้งไว้หน้าหน้ารถยนต์เอาไว้ พร้อมเหรียญหลวงพ่อองค์ใหญ่ภายในรถอีกหลายองค์เก็บไว้หมดแล้ว ก่อนจะลากซากรถไปเก็บที่ สภ.ชะอวด เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป ร.ต.ต.คะนอง เรียนสุดกล่าวยืนยัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับหลวงพ่อองค์ใหญ่วัดเขาพระทองเป็นพระพุทธรูปโบราณศักดิ์สิทธิ์ อายุกว่า 800 ปี ซึ่งที่ผ่านมาผู้ที่หอยคอหรือมีหลวงพ่อองค์ใหญ่พกพาติดรถ ติดตัวต่างมีประสบการณ์เหลือเชื่อเป็นข่าวทางสื่อมวลชนอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง ไม่ว่ากรณีเกิดเหตุรถนจนสภาพรถพังยับเยินยู่ยี่ และหัวรถจักรขบวนรถไฟชนรถยนต์จนพังยับเป็นเศษเหล็กแต่คนขับและคนในรถรอดตายหรือแม้แต่คนถูกฟ้าผ่าเต็ม ๆ แต่ทุกคนที่มีหลวงพ่อองค์ใหญ่พกพาติดตัวต่างรอดตายมาได้ราวปาฏิหาริย์

ข่าวโดย ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัด นครศรีธรรมราช

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ