หลังจากที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้ออกมาแถลงเมื่อวานนี้ (15 ส.ค. 2566) กับภารกิจทิ้งทวน แฉเพื่อชาติ Ep.2 ปั่น บวม ตัดตอน โดยมีช่วงตอนหนึ่งได้กล่าวถึงเกี่ยวกับ แม่บ้าน มหาสารคาม คือ น.ส.พินิช คำยศ ซึ่งอยู่ที่ บ.ดอนหัน ต.นาทอง อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม ซื้อที่ดินทองหล่อ 1,000 ล้าน ด้วยเงินกู้จากแสนสิริ

ซึ่งต่อมา น.ส.พินิช ได้ทำการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ พร้อมกัยเผยว่า เคยไปทำงานที่ กทม. เมื่อ 4-5 ปีก่อน ตอนนี้กลับมาอยู่บ้านถาวร ไม่ได้ไปไหนอีก และไม่เป็นแม่บ้านอีกด้วย แต่ก็สงสัยว่าทำไมนายชูวิทย์ ถึงมีรูปบัตรประชาชนและรูปบ้านของตน

ล่าสุด นายชูวิทย์ ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กถึงประเด็นดังกล่าวว่า เรื่องโกหกของมหาชน แม่บ้านที่เป็นเจ้าของบริษัท ที่จำนองที่ดินทองหล่อ และต่อมาขายให้แสนสิริในราคา 957 ล้านบาท กลับบอกไม่รู้เรื่อง ผมจึงนำหนังสือรับรองบริษัท และบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น ระบุให้เห็นชื่อ พินิช คำยศ และที่อยู่ชัดเจน ส่วนรู้หรือไม่รู้ หรือเป็น นอมินี หรือถูกสวมบัตรประชาชนก็คงต้องไปแก้ต้วเอาเอง ของแบบนี้ดูกันที่เอกสาร

แสนสิริให้กู้มีหนังสือจดจำนองที่ดิน 1,000 ล้าน และต่อมาตามไปซื้อที่ดินแปลงนี้ต่อ ก็แปลกอีก จะซื้อก็ซื้อ แต่ต้องให้จำนองก่อนเพื่อตัดทอนส่วนต่างไป พรุ่งนี้เวลา 10 โมง ยื่นหนังสือพร้อมข้อมูล ที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใครจะเป็น “พยาน” หรือใครจะเป็น “ผู้ต้องหา” ในคดีอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เดี๋ยวได้รู้กัน

นอกจากนี้อดีตนักการเมืองคนดังยังได้คอมเมนต์เพิ่มเติมอีกว่า บมจ.แสนสิริ ยิ่งแก้ตัวตอบโต้ ยิ่งเข้าตัว ให้ แม่บ้าน กับ รปภ. กู้จดจำนองที่ดิน ถึง 1,000 ล้าน แม่บ้านที่ถือหุ้นถึง 99.998% ของบริษัทบอก ไม่รู้เรื่องเงินเลย ไม่รู้ไปอยู่ไหน? ยิ่งไปกันใหญ่

ใครโกหกเดี๋ยวก็รู้ แต่งานนี้ ถึงขั้นยึดทรัพย์ ฐานร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันเป็นกรรมการ หรือผู้บริหารบริษัทมหาชน กระทำการโดยทุจริต ไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สจริต ตามกฎหมาย วัตถุประสงค์ ข้อบังคับของบริษัท และมติคณะกรรมการ ตลอดจนมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นจนเป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหายหรือทำให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์

ขอบคุณ เฟซบุ๊ก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์

เรียบเรียง siamnews