แค้นหนัก นปช.เผาเสื้อแดง โมโหเพื่อไทยสลับขั้วเผด็จการ
วันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมา กลุ่มคนเสื้อแดงที่เคยเคลื่อนไหวในนามแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. พื้นที่จังหวัดเชียงราย ประมาณ 10 คน ได้รวมตัวกันที่ลานหน้าอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช ห้าแยกพ่อขุน อ.เมืองเชียงราย ทำกิจกรรมแสดงออกถึงการคัดค้านพรรคเพื่อไทย กรณีไปร่วมมือกับอดีตรัฐบาล จัดตั้งรัฐบาลพิเศษ
โดยมีการนำรายชื่อพรรคต่างๆ เช่น พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ และ 2 ลุง มาร้อยด้วยด้ายสายสิญจน์พ่วงกับสติ๊กเกอร์พรรคเพื่อไทย ก่อนจะใช้มีดโบราณตัดเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าไม่เห็นด้วย
นอกจากนี้ยังนำเอาเสื้อแดงที่เคยสวมใส่เคลื่อนไหวทางการเมืองในนาม นปช. มาแขวนพร้อมกับป้ายข้อความ พรรคเพื่อไทย ทำเพื่อใคร ก่อนใช้ดาบโบราณฟันตามความเชื่อ นอกจากนี้ยังนำเอาแผ่นซีดี ดีวีดี ของนายทักษิณมากองรวมกันแล้วใช้เท้าเขี่ย จุดไฟเผาทิ้งทั้งหมด
นายจิระโชติกล่าวว่า สนับสนุนพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่ยังเป็นพรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชน เฉพาะตนสนับสนุนมานานประมาณ 20 ปีแล้วแม้แต่การเลือกตั้งครั้งล่าสุดพวกเราก็เลือก
เราเคยพากันออกไปชุมนุมนอนกลางถนนอยู่กับดินกินกลางทราย เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยและช่วยนายกฯ ทักษิณ และนายกฯ ยิ่งลักษณ์ บางคนถึงขั้นสูญเสียชีวิตโดยชาวเชียงรายเดินทางไปชุมนุมที่กรุงเทพฯ แล้วรถชนต้นไม้เสียชีวิต 5 ศพ ถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับความยุติธรรม
เดิมมีขั้วเหลือง ขั้วแดง ขั้วเผด็จการ ขั้วประชาธิปไตย ซึ่งนักการเมืองเป็นคนสร้างขึ้นมาทั้งนั้น แล้วคนเสื้อแดงก็ตามไปสนับสนุน มีการแบ่งแยกกันชัดเจน เมื่อประชาชนเดินไปตามทางนั้นแล้ววันสุดท้ายกลับมาพลิกขั้วอยางนี้ซึ่งรับไม่ได้ มีคนบอกว่าพวกเราไม่ใช่แดงแท้ เป็นติ่งส้ม ด้อมส้ม จริงๆ เราสู้มา 20 ปีตั้งแต่เป็นพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน จนมาถึงพรรคเพื่อไทย กับพรรคก้าวไกล เพิ่งตั้งมาไม่กี่ปี จะบอกว่าเราทำเพื่อพรรคก้าวไกลนั้นไม่ใช่ นายจิระโชติกล่าว กล่าวเสริม
ทางด้าน นางสาวพุทธชาติ ได้นำเอาบัตร นปช. เพื่อแสดงออกว่าตนสนับสนุนพรรคเพื่อไทยมาอย่างยาวนาน และไม่พอใจอย่างยิ่งที่ไปร่วมกับเผด็จการ ทิ้งพรรคก้าวไกล ดังนั้นต่อจากนี้จะขอตัดขาดไม่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยอีกต่อไป
แม้จะอ้างว่าเพื่อสลายขั้วการเมือง แต่ไม่ใช่เรื่องถูกต้อง เพราะอดีตคนเสื้อแดงเคยสูญเสียไปกว่า 99 คน และโดนคดีอีกมากมาย แค่ตนก็โดนไป 3 คดีแล้ว จึงเห็นว่าฝ่ายประชาธิปไตยกับเผด็จการเข้ากันไม่ได้จึงรู้สึกเสียใจอย่างมาก และขอเรียกร้องให้นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคเสีย และตั้งแง่ว่าที่พรรคเลือกทำเช่นนี้เพราะหวังให้ใครได้กลับประเทศใช่หรือไม่
เรียบเรียง siamnews