แพงไปไหม กินเค้กบลูเบอร์รี่ชีสพาย 3 ชิ้น เจอบิลคิดเงินฟาดไปเกือบพัน

แพงไปไหม กินเค้กบลูเบอร์รี่ชีสพาย 3 ชิ้น เจอบิลคิดเงินฟาดไปเกือบพัน

กลายเป็นดราม่าในโลกออนไลน์ทันที เมื่อมีหญิงสาวรายหนึ่งโพสต์แชร์เรื่องราวที่ตนเอง ไปนั่งกิน เค้ก ชิล ๆ ปล่อยใจ ที่ร้านขนมดังแห่งหนึ่งย่านนานา พร้อมกับเพื่อน 3 คน โดยเธอและเพื่อนๆ สั่งบลูเบอร์รี่ชีสพายมา 3 ชิ้น โดยเธอคิดว่าราคาเค้กน่าจะไม่เกินชิ้นละ 220 บาท แต่แท้จริงแล้วมีราคาถึง 330 บาทซึ่งเกินที่เธอคิดเอาไว้มาก

หลังจากที่เรื่องเค้กสุดแพงนี้ ได้ถูกแชร์ออกไปแล้วนั้น ก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลอย่างหนัก เนื่องจากมีชาวโซเชียลมาสอบถามและสาวเจ้าของโพสต์ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ไม่มีการแจ้งราคาในเมนู ชาวโซเชียลอีกส่วนก็บอกว่าแพงมาก ไม่ควรเกินชิ้นละ 200 บาท ด้วยซ้ำ จะอ้างว่าราคาฝั่งยุโรปก็ไม่ได้ เค้กที่ยุโรปไม่ได้แพงขนาดนี้ รวมไปถึงโรงแรม 5 ดาวก็ไม่แพงเท่านี้

ในขณะเดียวกัน ก็มีคนที่เข้ามาบอกว่า ในฐานะที่เป็นคนทำเค้กขาย ต่อให้ใช้วัตถุดิบราคาสูง ใช้ของจากเมืองนอก ราคาบลูเบอร์รี่ชีสพายชิ้นละ 330 บาทก็ถือว่าแพงเกินไป ราคานี้สามารถขายเป็นต่อปอนด์ได้เลย ต่อมาเจ้าของโพสต์ก็ได้ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมอีกว่า ร้านที่ตนไปนั่งทานคือร้านกาแฟย่านนานา ไม่ใช่ร้าน Amor เห็นอันดับเลขเมนู 119-129 คิดว่าเป็นราคานี้ หรือถ้าสูงกว่านี้กว่านี้ก็คงจะประมาณ 220 เนื่องจากเป็นย่านนักท่องเที่ยวต่างชาติ

แต่เมื่อเธอเห็นราคาเค้กชิ้นละ 330 บาท ก็เลยเรียกพนักงานมาดู และพนักงานก็ยืนยันว่า ราคานี้ถูกต้องแล้ว และก็เพิ่งสังเกตว่า ไม่มีโต๊ะไหนที่สั่งเค้ก มีแค่โต๊ะของตนที่พนักงานเชียร์ ส่วนใหญ่ลูกค้าที่ไปคือไปนั่งทานกาแฟ ไม่มีใครสั่งเบเกอรี่ และชื่อบนขนมเค้กเขียนเหมือนร้าน Amor แต่ยืนยันว่าร้านที่เธอไปนั่งไม่ใช่ร้าน Amor เพราะปกติไปนั่งทางร้าน Amor หลายชิ้นราก็ได้สูงขนาดนี้

เรียบเรียง siamnews

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ