เปิดสูตรแบ่งรมต. วางโควต้าครม.รัฐบาลสูตรพิเศษ
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค พท. ให้สัมภาษณ์กรณีนายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกมาระบุพรรค พปชร.พร้อมสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรค พท.ว่า ต้องขอบคุณ นายไผ่ และสมาชิกพรรค พปชร.ทั้ง 40 คน ที่จะสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรค พท. การที่นายไผ่ออกมาเปิดเผยเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา ความจริงยังไม่ได้มีการพูดคุยกับพรรค พปชร. เช่นเดียวกับพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช. ) หากเห็นว่าพรรค พท.เป็นแกนนำ และสามารถแก้ปัญหาประเทศได้ ก็แสดงเจตนารมณ์ช่วยสนับสนุน
ตอนนี้ไม่ทราบว่าใครจะสนับสนุนบ้าง แต่ได้หมดเลยทั้งพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พรรค รทสช. พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) และพรรคเป็นธรรม (ปธ.) สามารถสนับสนุนได้หมด เพราะเป็นรัฐบาลพิเศษ เพื่อสลายความขัดแย้งเอาวาระประชาชนเป็นหลัก ทั้งนี้ หากวันที่ 16 สิงหาคม ศาลรัฐธรรมนูญบอกว่าโหวตเลือกนายกฯต่อไปได้ พรรค พท.จะเสนอนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีของพรรค พท. และให้โหวตผ่านไปเลยก็สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ภายในหนึ่งเดือนอย่างช้าพรรค พท.จะจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสร็จ และแถลงนโยบายต่อรัฐสภาจะเสร็จก่อนเดือนตุลาคม’นายภูมิธรรมกล่าว นายภูมิธรรม กล่าวในรายการ อยากมีเรื่องคุย ทางข่าวสดออนไลน์ ถึงการแบ่งโควต้ารัฐมนตรีว่า
1.เราควรพยายามคิดใหม่ เอาวาระประชาชน วาระประเทศเป็นตัวตั้ง
2.ต้องยอมรับความจริงของกำลังทางการเมืองที่จะเข้ามาร่วมรัฐบาล เราอยู่ในระยะเปลี่ยนผ่าน
ดังนั้นสมมติวันนี้เราตั้งรัฐบาลให้มีเสถียรภาพ 300 หรือ 310 เสียง มีกี่พรรค แต่ละพรรคมีคนเท่าไหร่ ก็เอามาหาร 310 เฉลี่ย 9 คนมีรัฐมนตรี 1 คน พรรคอื่นๆ ก็เป็นแบบนี้ เป็นวิธีที่ทำมาตลอด แต่มีเงื่อนไขว่า เราขอได้หรือไม่ ต้องต่อรองกันและเคารพพรรคที่มาร่วม ต่อรองได้มากน้อยแค่ไหนอยู่ที่การพูดคุยกัน ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพท. ถึงการรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลว่า ขณะนี้พรรค พท.ได้ร่วมกับพรรคการเมืองต่างๆ และแถลงร่วมยกมือโหวตให้กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรค พท.ไปแล้วจำนวนมากประกอบด้วย
-พรรคภูมิใจไทย (ภท.) 71 เสียง
-พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) 10 เสียง
-พรรคประชาชาติ (ปช.) 9 เสียง
-พรรคเพื่อไทรวมพลัง (พทล.) 2 เสียง
-พรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) 2 เสียง
-พรรคเสรีรวมไทย (สร.) 1 เสียง -พรรคพลังสังคมใหม่ 1 เสียง
-พรรคท้องที่ไทย 1 เสียง รวมเป็น 238 เสียง
ล่าสุด พรรคพปชร. แม้จะยังไม่แถลงข่าวร่วมกัน แต่ก็แสดงความชัดเจนว่าจะยกมือ 40 เสียง พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1 เสียง ให้พรรค พท. ทำให้มีเสียงรวมกันอยู่ที่ 279 เสียง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าพรรครทสช. จะมายกมือโหวตให้กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรค พท. หากเป็นเช่นนั้นจะเพิ่มอีก 36 เสียง ทำให้รวบรวมเสียงได้ 315 เสียง ทำให้ต้องได้เสียง ส.ว. เพิ่มเติมเพียง 60 เสียง เพื่อมีเสียงรัฐสภา 374 เสียง หรือเกินกึ่งหนึ่งของที่ประชุมรัฐสภา
ที่สนามกีฬาบุณยะจินดา สโมสรตำรวจ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการโหวตเลือกนายกฯว่า มั่นใจจะได้รับคะแนนเสียงในการได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีในครั้งเดียว