บ.พลังงานอื่น กำไรหาย แต่ บ.กัลฟ์ ขายไฟรายได้พุ่งสูง

บ.พลังงานอื่น กำไรหาย แต่ บ.กัลฟ์ ขายไฟรายได้พุ่งสูง

วันนี้ (11 ส.ค. 2566) สื่อชื่อดัง ได้มีการรายงานผลประกอบการ ไตรมาส 2/66 ทิศทางธุรกิจกลุ่มพลังงานส่วนใหญ่ในประเทศไทยไม่ค่อยสวยงามนัก อย่างกลุ่มบางจาก, กลุ่มไทยออยล์ และกลุ่ม ปตท. กำไรลดลง ขณะที่ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือกัลฟ์ กลับมีกำไรเพิ่มขึ้น ซึ่งมีรายได้รวมอยู่ที่ 35,263 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% จาก 24,553 ล้านบาท ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรจากการดำเนินงาน ที่ 3,556 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จาก 3,081 ล้านบาท ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ การเติบโตดังกล่าวมีสาเหตุจากการรับรู้ผลการดำเนินงานของโครงการกัลฟ์ ปลวกแดง ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ IPP ที่มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 2,650 MW โดยรับรู้ Core Profit จำนวน 223 ล้านบาทในไตรมาสนี้ ประกอบกับรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ SPP 12 โครงการภายใต้กลุ่ม GMP ที่มีปริมาณการขายไฟฟ้าให้ กฟผ. เพิ่มขึ้น

โดยมี Load Factor เฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 78% ในไตรมาส 2/65 เป็น 80% ในไตรมาส 2 ปีนี้ และยังมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น จากการขายไฟฟ้าให้แก่กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม เนื่องจากราคาค่าก๊าซเฉลี่ยที่ปรับตัวลดลง โดยราคาค่าก๊าซธรรมชาติเฉลี่ยลดลงจาก 449.15 บาท/ล้านบีทียูในไตรมาส 2/65 เป็น 406.44 บาท/ล้านบีทียูในไตรมาสนี้ หรือลดลง 10% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่ค่า Ft เฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 0.17 บาท/kWh ในไตรมาส 2/65 เป็น 1.12 บาท/kWh ในไตรมาสนี้

นอกจากนี้ ในไตรมาส 2/66 กัลฟ์ ยังรับรู้ส่วนแบ่งกำไร Core Profit จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม 3 โครงการภายใต้กลุ่ม Gulf Gunkul Corporation จำนวน 148 ล้านบาท และส่วนแบ่งกำไร Core Profit จากโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ DIPWP ในประเทศโอมาน จำนวน 139 ล้านบาท

โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าวได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นจาก 52 MW ในไตรมาส 2/65 เป็นครบทั้งสิ้น 326 MW ในไตรมาส 2/66 รวมถึงรับรู้ส่วนแบ่งกำไร Core Profit จากโครงการบริหารจัดการท่าเทียบเรือสาธารณะ เพื่อขนถ่ายสินค้าเหลว Thai Tank Terminal จำนวน 59 ล้านบาทในไตรมาสนี้

อย่างไรก็ดี ปัจจัยบวกดังกล่าวถูกชดเชยบางส่วนจากส่วนแบ่งกำไรที่ลดลงจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งทะเล Borkum Riffgrund 2 (BKR2) ที่ประเทศเยอรมนี ตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ลดลง ซึ่ง กัลฟ์ ได้จำหน่ายหุ้นในสัดส่วน 25.01% ให้ Keppel Group ในเดือน ธ.ค.65

นอกจากนี้ ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการ PTTNGD ลดลง เนื่องจากราคาน้ำมันเตาลดลงในอัตราที่สูงกว่าราคาค่าก๊าซธรรมชาติ ซึ่งรายได้ของโครงการดังกล่าวจะผูกกับราคาน้ำมันเตา ในขณะที่ต้นทุนจะขึ้นอยู่กับราคาค่าก๊าซธรรมชาติ ประกอบกับส่วนขาดทุนจากโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Jackson Generation ที่ปสารัชถ์ รัตนาวะดีระเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากราคาก๊าซธรรมชาติ Henry Hub ที่ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 1.99 ดอลลาร์สหรัฐ/ล้านบีทียู ในไตรมาสนี้

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ