เมื่อเวลา 21.00 น. วานนี้ (9 ส.ค. 2566) ได้มีรายงานจากชาวบ้านในพื้นที่ ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ว่า มีพระสงฆ์และสามเณรเกือบ 10 รูป และเด็กวัดอีก 1 คน เดินอยู่บนถนนเส้น 304 มุ่งหน้าขาเข้ากรุงเทพมหานคร โดยพระสงฆ์และสามเณรแต่ละรูปรวมถึงเด็กวัด ต่างถือสิ่งของเครื่องใช้ประจำตัวเดินมาตามท้องถนน อาทิเช่นบาตร พัดลม และสัมภาระส่วนตัว

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ และพบกับกลุ่มพระเณรและเด็กวัดดังกล่าว โดย พระนพดล สุชาโต เล่าว่า อาตมาไม่มีจุดหมายจะไปไหนเลย เพราะโดนเจ้าอาวาสบังคับนำตำรวจมาบีบให้ออกจากวัด เนื่องจากสาเหตุพวกอาตมาพากันไปร้องเรียนเจ้าอาวาส กับทางเจ้าคณะอำเภอ เรื่องเจ้าอาวาสมีความประพฤติที่ไม่เหมาะสม แต่พอไปร้องเรียนแล้วกลับไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็เลยต้องพากันออกมาจากวัด เนื่องจากกลัวว่าถ้าอยู่ในวัดจะไม่ปลอดภัย เพราะเจ้าอาวาสรูปนี้เป็นคนมีอิทธิพล

ด้าน พระวายุสันติธรรมโม เล่าต่อว่า ที่ไปร้องเรียนเพราะมีประเด็นที่เจ้าอาวาสรับเงินกฐินปี 65 ยอดเงินประมาณ 3 แสนบาท หลังจากนั้นก็ออกจากวัดหายไป 7-8 เดือน จากนั้นเมื่อประมาณกลางเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าอาวารูปดังกล่าวก็กลับมาที่วัด จึงมีการร้องเรียนไปเมื่อวันที่ 9 ก.ค. 2566

แต่พอตกเย็นกลับมีหนังสือจากเจ้าคณะจังหวัดเซ็นต์รับรองทุกรูป ให้ทำการย้ายพระและเณรออกจากสำนักสงฆ์ ซึ่งเจ้าอาวาสได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่วัด และทางตำรวจบอกว่าขึ้นอยู่กับเจ้าอาวาสว่าจะให้พระเณรลูกวัดอยู่ต่อหรือไม่ แต่ทางเจ้าอาวาสไม่ให้พวกอาตมาอยู่ต่อ สั่งให้ออกจากสำนักสงฆ์ทั้งหมด ไม่เช่นนั้นจะดำเนินคดีในข้อหาบุกรุก

อาตมาไม่เข้าใจว่าบุกรุกยังไง บวชมา 7 ปีแล้ว อยู่ที่นี่แค่ร้องเรียนเจ้าอาวาสก็โดนไล่ออก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ถามอะไรเลย จะเอาพวกเราออกอย่างเดียว ไม่ถามเหตุผลอะไรสักคำ บอกเพียงแค่บอกว่าได้รับมอบหมายมาจากเจ้าคณะเท่านั้น

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีพระ 3 รูป สามเณร 5 รูป เด็กวัด 1 ราย ที่ออกมาจากสำนักสงฆ์ดังกล่าว ภายในสำนักสงฆ์ตอนนี้มีเพียงเจ้าอาวาสและเลขาเท่านั้นหลังจากนี้ทางพระนพดลจะนำพระและเณรทั้งหมด จะไปหาวัดต่างตำบลเพื่อจำพรรษาก่อน เนื่องจากเป็นช่วงเข้าพรรษา หลังจากนั้นจะดำเนินการเรียกร้องความยุติธรรมกับพระผู้ใหญ่ตามลำดับชั้นต่อไป

เรียบเรียง siamnews