วิษณุ เครืองาม เปิดเงื่อนไขสำคัญ หากก้าวไกลจะเป็นผู้นำฝ่ายค้าน
วานนี้ (8 ส.ค. 2566) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านว่า เนื่องจากรัฐธรรมนูญระบุห้ามไม่ให้ ส.ส. ในพรรคที่มีสมาชิกเป็นรัฐมนตรี ประธานสภา และรองประธานสภา
ถึงแม้ว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล จะถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ยังไม่ถือว่าพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน จึงยังแต่งตั้งไม่ได้ เนื่องจากผู้นำฝ่ายค้านต้องมาจากพรรคที่ไม่ได้ร่วมรัฐบาล และต้องเป็นพรรคที่ใหญ่ที่สุดในฝ่ายค้าน แถมยังมีเงื่อนไขอื่น ๆ อีก
อีกอย่าง นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส. พรรคก้าวไกล ที่ต้องนี้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภา คนที่ 1 จะต้องลาออก หากพรรคก้าวไกลจะเป็นผู้นำฝ่ายค้าน เพราะไม่งั้นจะแย้งกับรัฐธรรมนูญ ส่วนนายพิธาหากหลุดจากการเป็น ส.ส. พรรคก้าวไกลจำเป็นต้องมีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่
นอกจากนี้ นายวิษณุ ยังกล่าวอีกว่า น่ากังวลเรื่องงบประมาณปี เพราะปกติในช่วงนี้งบประมาณปี 67 จะเข้าสภา แต่การที่ยังไม่มีรัฐบาลใหม่ สมมติได้รัฐบาลในเดือน ก.ย. กว่าจะทำงบประมาณ ต้องแถลงนโยบายให้เสร็จก่อน อาจอยู่ในช่วงปลาย ก.ย.หรือต้น ต.ค.
นั่นทำให้งบประมาณ ปี 67 เข้าสภาประมาณ เดือน พ.ย.- ธ.ค. แล้วต้องใช้เวลาอยู่ในสภาอีก 3 เดือน จังหวะนั้นจะพอดีกับการทำงบประมาณในปี 68 ทำให้งบประมาณ 2 ปีซ้อนกัน ซึ่งไม่อาจทราบความเสียหายในเรื่องนี้ได้ ต้องให้ภาคเอกชนเป็นคนประเมิน
เรียบเรียง siamnews