กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับกาุรตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหาทั้งหมด 10 ราย ฐานความผิด ผู้ต้องหาที่ 1. รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม ผู้ต้องหาที่ 2 – 10 เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต

พร้อมตรวจยึดของกลาง  1. รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา 4 ประตู จำนวน 1 คัน พร้อมกุญแจรถยนต์ จำนวน 1 ดอก สถานที่จับกุม บริเวณถนนเลียบคันคลอง หมู่ 3 ต.เขาแก้ว อ.สรรพยา จ.ชัยนาท พฤติการณ์ ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาที่ให้ตำรวจทางหลวงเป็นหน่วยสกัดกั้น กวดขันจับกุมการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในราชอาณาจักร และที่ผ่านมา กก.1 บก.ทล.มีการจับกุมอย่างต่อเนื่องนั้น

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงสิงห์บุรี ได้ร่วมกันออกตรวจพื้นที่จนมาถึงบริเวณทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ทล.32 (เอเชีย) กม.115 ขาเข้า กทม. ต.หาดอาษา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา 4 ประตู ขับผ่านมาในลักษณะมีพิรุธ จึงให้สัญญาณหยุดรถเพื่อตรวจสอบ แต่รถคันดังกล่าวกลับพยายามขับหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขับรถติดตามไป กระทั้งถึงบริเวณถนนเลียบคันคลอง หมู่ 3 ต.เขาแก้ว อ.สรรพยา จ.ชัยนาท จึงสามารถหยุดรถคันดังกล่าว ตรวจสอบพบ นายสันติชัยฯ เป็นผู้ขับขี่ และพบบุคคลต่างด้าว จำนวน 9 คน เป็นชาย 6 คน และหญิง 3 คน อัดแน่นอยู่ภายในห้องโดยสารของรถคันดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าคนต่างด้าวทั้งหมดไม่มึหนังสือเดินทาง หรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง รวมถึงไม่มีเอกสารและหลักฐานใดๆ ที่แสดงว่าได้รับการผ่อนผันให้อยู่ในราชอาณาจักรได้

สอบถามนายสันติชัยฯ ผู้ขับรถยนต์ ให้การว่า ได้รับการประสานจากชายสัญชาติเมียนมา ชื่อเจี๋ยว บอกให้ตนมารับคนต่างด้าว จำนวน 9 คน ที่บริเวณป่ารกร้าง แถวถนนเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ เพื่อไปส่งยังปลายทางบริเวณศาลาพักรถ บริเวณ กม.12 อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เขาแก้ว จ.ชัยนาท ดำเนินคดีต่อไป

เรียบเรียง ทีมข่าวสยามนิวส์