ลาก่อน แฟมิลี่มาร์ท เปลี่ยนสาขาทั้งหมด เป็นท็อปส์เดลี่

ลาก่อน แฟมิลี่มาร์ท เปลี่ยนสาขาทั้งหมด เป็นท็อปส์เดลี่

หลังจาก นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ยอมรับในการแถลงแผนธุรกิจปี 2566 โดยระบุว่า การแข่งขันในธุรกิจร้านสะดวกซื้อในประเทศไทยที่ค่อนข้างรุนแรง และมีผู้เล่นรายใหญ่ที่ครองตลาดในประเทศที่รู้จักกันอยู่แล้ว

ขณะที่ CRC มีร้านสะดวกซื้อแบรนด์แฟมิลี่มาร์ท (Family mart) ได้มีการพิจารณาถึงความเหมาะสมของธุรกิจและสภาพการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เนื่องจากบริษัทให้ความยืดหยุ่นกับธุรกิจในเครืออยู่ตลอดเวลา หากธุรกิจใดที่ไม่ได้สะท้อนภาพแนวทางของบริษัทชัดเจน ก็สามารถปรับลดบทบาท หรืออาจขายทิ้งไปก็เป็นไปได้

รวมทั้ง ปัจจุบันพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปในธุรกิจร้านสะดวกซื้ออย่างร้านแฟมิลี่มาร์ท ที่มีพื้นที่ประมาณ 150 ตารางเมตร มองว่าพื้นที่ร้านมีขนาดเล็ก และตอบสนองความต้องการผู้บริโภคไม่ครบถ้วน ทำให้หันมาโฟกัสในธุรกิจแบรนด์ท็อปส์ (Tops) ที่มีขนาดพื้นที่ร้านขนาดใหญ่กว่าที่ 250-300 ตารางเมตร วางสินค้าครบถ้วนมากกว่า ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ซื้อในปัจจุบัน และสามารถขยายสาขาเข้าใกล้ชุมชนและหมู่บ้านได้เช่นกัน ซึ่งในปี 66 บริษัทมีแผนเปิดสาขาแบรนด์ Tops ประมาณ 15 สาขาภายใต้โมเดล Tops Market

ซึ่งสัญญาณการถอยในธุรกิจร้านสะดวกซื้อของเซ็นทรัลรีเทลฯ มีมากกว่า 3 ปีแล้ว โดยดูจากจำนวนสาขาของแฟมิลี่มาร์ท ที่ดำเนินการโดย บริษัท เซ็นทรัลแฟมิลี่มาร์ท จำกัด ในเครือ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล ในช่วงปี 2562-2564 จากจำนวนสาขาที่เคยมีประมาณ 1 พันสาขา แต่ในปี 2564 มีสาขาเหลือเพียง 805 สาขา ใน 17 จังหวัด รวมทั้งพื้นที่ขายสุทธิ และพื้นที่ขายสุทธิโดยเฉลี่ยต่อร้านค้าที่ลดลงเช่นกัน โดยพื้นที่ขายสุทธิโดยเฉลี่ยของแฟมิลี่มาร์ท ซึ่งเป็นร้านสะดวกซื้อ อยู่ที่ 126 ตารางเมตร 

เมื่อมาดูแผนธุรกิจปี 2566 ที่เซ็นทรัลรีเทลฯ ประกาศออกมาที่จะหันมาผลักดันแบรนด์ Tops ขึ้นเป็น Food Discovery & Destination และเบอร์ 1 Food Omni Retailer โดยขยายสาขา Tops อีก 15 สาขา ครอบคลุมประเทศไทยและเวียดนาม

ซึ่งก่อนหน้านี้ ท็อปส์ มีรูปแบบธุรกิจ เช่น Central Food Hall / Tops Market / Tops Super Store / Tops Plaza / Tops Club / Tops Online และ Tops Daily ซึ่งเป็นร้านสะดวกซื้อ โดยปัจจุบันทั้งหมดจะเปลี่ยนเป็นแบรนด์ Tops เพื่อให้เข้าใจง่าย และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

ซึ่งโมเดลธุรกิจที่มีความเป็นไปได้ขณะนี้ คือ การนำแบรนด์ท็อปส์ เดลี่ หรือ ท็อปส์ ประมาณ 135 สาขา มาสวมแทนแฟมิลี่มาร์ท ซึ่งเดิมเครือเซ็นทรัลได้สิทธิแบบแฟรนไชส์ จากแฟมิลี่มาร์ทของญี่ปุ่น ไม่ใช่การร่วมลงทุนแบบในอดีต 

ขณะที่การที่ผู้บริหารเซ็นทรัล รีเทลฯ ระบุว่า ค้าปลีกไซส์เล็กที่มีขนาดพื้นที่ขายประมาณ 120 ตารางเมตร เริ่มที่จะไม่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแล้ว แต่ต้องเป็นร้านที่มีไซส์ใหญ่ขึ้น ประมาณ 300 ตารางเมตร และมีที่จอดรถไว้รองรับ ทำให้แฟมิลี่มาร์ท ถูกลดบทบาท และให้ความสำคัญในการขยายสาขาน้อยลง และในแผนธุรกิจของเซ็นทรัลรีเทลฯ ก็แทบไม่พูดถึงการขยายสาขาหรือแผนธุรกิจของแฟมิลี่มาร์ทเลย 

นอกจากนี้ มีสื่อรายงานข่าวว่า สิทธิในการได้แฟรนไซส์ ของแฟมิลี่มาร์ทในไทยที่เซ็นทรัล รีเทลฯ ได้รับสิทธิ จะหมดสัญญาในปี 2566 นี้ และคาดว่าเครือเซ็นทรัลจะไม่ต่อสัญญา รวมทั้งการทยอยปิดสาขาของผู้ที่หมดสัญญาแฟรนไชส์ ซึ่งมีอยู่จำนวนไม่น้อยซึ่งแฟรนไชส์ในธุรกิจค้าปลีก อาจไม่ใช่ธุรกิจที่เครือเซ็นทรัลถนัดในการเข้าไปดูแลผู้ได้รับแฟรนไชส์ ซึ่งร่วมลงทุนหรือเป็นเจ้าของ ไม่ใช่ผู้จัดการสาขา แบบที่เครือเซ็นทรัลคุ้นเคยในการบริหาร แม้จะมีธุรกิจแฟรนไชส์อย่าง Officemate ก็ตาม 

รวมทั้งการใช้แบรนด์ Tops แทน Tops daily และที่ผ่านมาก็เข้าไปแทนที่ Family Mart แทนหลายสาขา ซึ่งไม่ต้องเสียค่าแฟรนไชส์ให้กับแฟมิลี่มาร์ทของญี่ปุ่นนั่นเอง เพราะมีแบรนด์ของตัวเองอยู่แล้ว และเพื่อให้ชัดเจนในธุรกิจอาหาร หรือ กลุ่มฟู้ดของเครือเซ็นทรัลนั่นเอง 

ดังนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกหากเครือเซ็นทรัลจะกลับไปจับกลุ่มลูกค้ากลาง-บน ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่ถนัด และหากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ไม่เหมาะกับร้านสะดวกซื้ออย่างที่ผู้บริหารเซ็นทรัลรีเทลฯ กล่าว 

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ