ชูวิทย์ ลั่น คนเป็นนายกต้องซื่อสัตย์ หลังเศรษฐา ส่งทนายยื่นฟ้อง 500 ล้าน

ชูวิทย์ ลั่น คนเป็นนายกต้องซื่อสัตย์ หลังเศรษฐา ส่งทนายยื่นฟ้อง 500 ล้าน

จากกรณีที่นักเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้ทำการแฉนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ปมซื้อขายที่ดินแสนสิริก่อนหน้านี้นั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน ได้มอบอำนาจให้ทนายความ นายวิญญัติ ชาติมนตรี ยื่นฟ้องนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีนายชูวิทย์กล่าวหาว่า บริษัท แสนสิริ โดยนายเศรษฐาซื้อที่ดินและมีการหลีกเลี่ยงภาษี

โดยนายวิญญัติกล่าวว่า จำเลยจัดแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชนและสาธารณชนที่ รร.เดอะเดวิส สุขุมวิท 24 โดยใช้ชื่อว่า แฉเพื่อชาติ EP 1 ด้วยข้อความอันเป็นเท็จเป็นการป่าวประกาศ ใส่ความโจทก์ต่อหน้าสื่อมวลชวนที่ไปทำข่าว และยังมีการถ่ายทอดสดเผยแพร่ต่อสื่อออนไลน์แพลตฟอร์มต่าง ๆ ในลักษณะใส่ความโจทก์ต่อบุคคลที่สาม เพื่อให้ประชาชนบุคคลทั่วไป รวมทั้งสมาชิกรัฐสภา ทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ที่จะต้องลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบให้โจทก์เป็นนายกฯ

รวมทั้งบุคคลทั่วไปที่ได้รับฟังรับชมการแถลงข่าวของจำเลย หลงเชื่อและเข้าใจว่าโจทก์เป็นบุคคลไม่ดี เป็นคนที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และไม่สมควรได้รับแต่งตั้งให้เป็นนายกฯ ทั้งนี้ ก่อนการแถลงข่าว บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้เผยแพร่แถลงการณ์ต่อสาธารณะ ยืนยันว่าบริษัทฯ ได้ดำเนินการตามหลักธรรมาภิบาล ถูกต้องตามกฎหมาย โปร่งใสและตรวจสอบได้

ตนขอตั้งข้อสังเกตว่านายชูวิทย์ มีเจตนาพูดไม่ครบถ้วน ให้ข้อเท็จจริงในลักษณะให้เกิดความเข้าใจผิด มีวาระซ่อนเร้น กลั่นแกล้งโจทก์หรือไม่ การใส่ความนายเศรษฐา เพื่อหวังผลการเมือง และไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนอย่างที่นายชูวิทย์กล่าว

ทางโจทก์ได้ยื่นฟ้องพร้อมเรียกค่าเสียหายจากนายชูวิทย์จากการกระทำละเมิดต่อโจทก์ดังกล่าวเป็นเงิน 500 ล้านบาทถ้วน พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5 ต่อปีของเงินจำนวนดังกล่าวนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะชำระเสร็จสิ้นแก่โจทก์

ทางด้านนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า วันนี้รู้สึกขนลุก เพราะหากคุณเศรษฐาเป็นบุคคลสาธารณะ เสนอตัวเองเป็นนายกฯ แต่เมื่อเป็นนายทุน ใช้รถไฟความเร็วสูงสายยิ่งลักษณ์ โดดเข้ามาในพรรคเพื่อไทย คุณสมบัติก็เป็นสิ่งที่ประชาชนอย่างตนวิจารณ์ได้ เพราะในมาตรา 160 คนที่เป็นนายกฯ จะต้องมีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์

ดังนั้นก่อนที่คุณเศรษฐาจะมาเป็นนายกฯ ก็ต้องมีความซื่อสัตย์ สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ถ้ามีพฤติการณ์ซ่อนเร้น น่าสงสัย แล้วคุณเศรษฐาจะฟ้องตน ตนก็คุยกับทนายว่า ฟ้องกลับเลยดีไหม คุณเศรษฐาต้องชี้แจง ถ้าเงียบแล้วเอาวิธีการมาฟ้องนั้น มันกระทำไม่ได้ เพราะตนยึดถือว่าคุณกำลังจะเป็นนายกฯ

นายชูวิทย์กล่าวว่า บอกก่อนนะตนเป็นนักบัญชี จบปี 2525 ดังนั้นเพื่อนตนบางคนก็เป็นถึงผู้ใหญ่ในวงการเงิน ส่วนทนายบางคนที่ออกมาตอบโต้ตน ก็ไม่เป็นไร ดังนั้นคนที่เป็นนายกฯ จะต้อง 100 % ไม่ใช่ 50 / 50 เพราะคำว่าจริยธรรมนั้น มันเป็นเส้นบาง ๆ ระหว่างเล่ห์เหลี่ยมของนายทุน กับความซื่อสัตย์ของนายกรัฐมนตรี

เรียบเรียง siamnews

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ