เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการประสานงานจัดตั้งรัฐบาลของพรรค พท. ว่าพรรค พท.ประสานงานพรรคการเมืองต่างๆ และพร้อมสนับสนุนยกมือให้กับแคนดิเดตนายกฯพรรค พท.เรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อประธานรัฐสภาเลื่อนการโหวตนายกฯออกไปเพื่อรอความชัดเจนของศาลรัฐธรรมนูญประเด็นคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ทำให้พรรค พท. มีเวลาพูดคุยกับพรรคการเมืองต่างๆ รวมถึงสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ให้มากยิ่งขึ้น

จากเดิมมั่นใจว่าเสียงเพียงพอ สามารถผลักดันแคนดิเดตนายกฯของพรรค พท.ได้อย่างแน่นอน แต่เมื่อมีเวลาเพิ่มเติมก็คาดว่าจะได้มากยิ่งขึ้นเพื่อทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพมากขึ้น

เมื่อถามว่า เสียงที่เพียงพอมีพรรคใดบ้าง และมีพรรคของลุงร่วมด้วยหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า ไม่ขอพูดอะไรในประเด็นนี้ รอให้ติดตามตอนแถลงข่าวเปิดตัวพรรคการเมืองที่จะร่วมโหวตให้แคนดิเดตนายกฯพรรค พท. ถึงวันนั้นทุกอย่างจะชัดเจน

ขณะที่นายสามารถ แก้วมีชัย สมาชิกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) อดีต ส.ส.เชียงราย พรรค พท. โพสต์หัวข้อถูกหลอก ระบุข้อความว่า หลังเลือกตั้ง ข้าวต้มมัดฝ่ายประชาธิปไตย 8 พรรค รวมเสียงกันได้ 312 เสียง ข้าวต้มมัดฝ่ายอำนาจเก่า 10 พรรค รวมเสียงกันได้ 188 เสียง สภาผู้แทนราษฎรมีจำนวน 500 เสียง กึ่งหนึ่งคือ 250 เสียง ดังนั้น ข้าวต้มมัดฝ่ายประชาธิปไตย มีเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร แม้การเลือกนายกรัฐมนตรีต้องทำในที่ประชุมรัฐสภา ที่มี ส.ว. 250 คน (ปัจจุบัน ลาออกไป 1 คน คงเหลือ 249 คน) มีอำนาจในการเลือกนายกฯด้วย และนายกฯต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกรัฐสภาที่มีอยู่ คือ 375 เสียงก็ตาม

แต่ถ้าข้าวต้มมัดฝ่ายประชาธิปไตยมัดกันให้แน่น ไม่ได้เสียงจาก ส.ว.เพียงพอถึง 375 เสียง ก็ถือเป็นหลักอยู่ในสภาผู้แทนราษฎร ถึงแม้ข้าวต้มมัดฝ่ายอำนาจเก่าจะได้ ส.ว.สนับสนุน จนสามารถได้ตัวนายกรัฐมนตรีและตั้งรัฐบาลได้ก็ตามก็จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยในสภาผู้ราษฎรที่อายุสั้น บริหารไม่ได้ ต้องนำไปสู่การยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชนเพื่อเลือกตั้งกันใหม่อย่างแน่นอน

แต่วันนี้พรรค พท.เหมือนถูกหลอกให้แยกตัวออกมาจากข้าวต้มมัดฝ่ายประชาธิปไตย กลายเป็นพรรคโดดเดี่ยวมีเพียง 141 เสียง วันนี้พรรค พท.เหมือนถูกโดดเดี่ยว ไม่เหลืออำนาจต่อรองอะไรมากมาย จะย้อนกลับไปหาพรรค ก.ก.ก็คงลำบาก เขาคงเจ็บปวดและจดจำในสิ่งที่เคยทำไว้กับเขา หมากกระดานนี้ ไม่ทราบใครหลอกใครครับ

โพสต์ดังกล่าว

เรียบเรียง สยามนิวส์