สื่อดังวิเคราะห์ ก้าวไกล เตรียมปิดฉาก แม้แต่ผู้นำฝ่ายค้าน ก็ไม่ได้เป็น
ต้องบอกว่าการเมืองช่วงนี้ มีอะไรให้ติดตามเยอะมาก โดยเฉพาะการจัดตั้งรัฐบาลที่พรรคเพื่อไทยเตรียมจับขั้วรัฐบาลใหม่ และปล่อยให้พรรคด้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งก็ได้มี สื่อสำนักดัง ได้วิเคราะห์ได้น่าสนใจว่า ในตอนนี้ พรรคก้าวไกล ถอยจนได้รับตำแหน่งเดียว คือ รองประธานสภาคนที่ 1 ทั้งที่ชนะการเลือกตั้งได้เสียง 151 เสียง มากที่สุดในสภา ตอนแรกหลายคนมองว่า ต่อให้ไปเป็นฝ่ายค้านก็จะยังได้อีก 1 ตำแหน่ง คือ ผู้นำฝ่ายค้าน แต่ปรากฎว่าเมื่อไปเปิดข้อกฎหมายชัด ๆ พบว่า ก้าวไกลหมดสิทธิ์ในตำแหน่งนี้แล้ว
เพราะหากดูตามข้อกฎหมายในรัฐธรรมนูญ มาตรา 106 ระบุว่า ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน จะเป็นของ หัวหน้าพรรคการเมืองที่มี สส.มากที่สุด และ สส.ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี ถ้าพูดแค่นี้ ตอนแรกเราอาจจะคิดถึง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคก้าวไกล แต่นายพิธา ก็ถูกสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่ สส. ทำให้ไม่สามารถรับตำแหน่งนี้ได้ ถึงแม้ตอนนี้จะหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวก็ตาม
ตอนแรกมีการคาดการณ์กันว่า หากมีการเปลี่ยนตัว หัวหน้าพรรค เอาคนที่เป็น สส.ก้าวไกล ขึ้นมาแทนในตำแหน่งนี้ ก็อาจจะทำให้ก้าวไกลได้รับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านหรือไม่ เนื่องจากเป็นพรรคที่ มีสส.มากที่สุด และไม่ได้เป็นรัฐมนตรีหรือร่วมรัฐบาลเลย แต่เมื่อดูประโยคถัดไปของรัฐธรรมนูญ มาตรา 106 กลับพบว่า นอกจาก ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านจะ ห้ามมี สส.เป็นรัฐมนตรีแล้ว ยังห้ามมี สส. เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร หรือ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ด้วย
นั่นเท่ากับว่า พรรคก้าวไกล ที่มีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา หรือว่า หมออ๋อง สส. จังหวัดพิษณุโลก สังกัดพรรคก้าวไกล ดำรงตำแหน่งเป็น รองประธานสภาผู้แทนราษฎรอยู่ ดังนั้นตอนนี้ พรรคก้าวไกลจึงหมดสิทธิ์รับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านไปด้วย ยกเว้นแต่ว่า นายปดิพัทธ์จะลาออกจากตำแหน่งรองประธานสภา เพื่อเปิดทางให้พรรคก้าวไกลมีสิทธิ์เลือกหัวหน้าพรรคใหม่ขึ้นมาเป็นผู้นำฝ่ายค้าน และนี่ถือเป็นอีก 1 โจทย์ยากของพรรคก้าวไกลที่จะต้องเผชิญหลังจากนี้