สุดทนบ้าน จนท.อบต.เลี้ยงสุนัข 26 ตัวเห่าเสียงดังนอนไม่ได้ แถมโดนไล่ อยู่ไม่ได้ก็ย้ายไป

สุดทนบ้าน จนท.อบต.เลี้ยงสุนัข 26 ตัวเห่าเสียงดังนอนไม่ได้ แถมโดนไล่ อยู่ไม่ได้ก็ย้ายไป

วันที่ 3 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายธีรศักดิ์ ตาละลักษณ์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/1 หมู่ที่ 6 ต.เตาปูน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ว่าตนเองไม่รู้จะไปพึ่งใครได้แล้วขอให้สื่อช่วยเป็นกระบอกเสียง คือเป็นบ้านที่เจ้าหน้าที่ที่อยู่ใน อบต.แห่งหนึ่ง ในอำเภอแก่งคอย เลี้ยงสุนัขไว้มากถึง 26 ตัว เห่า หอน สร้างความเดือดร้อนจนกระทบกับชีวิตประจำวัน ทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ เสียทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิตเป็นอย่างมาก และเคยได้บอกกล่าวคู่กรณีไปแล้ว แต่ถูกเพิกเฉยมาเป็นปีโดยไม่ได้รับการแก้ไข ทั้งกลิ่นทั้งเสียง รบกวนเพื่อนบ้านมานานหลายปี

ซึ่งรอบรอบบ้านก็มีทั้งคนแก่ ผู้ป่วยติดเตียงก็มี ร้องเรียนไปแล้วหลายหน่วยงานก็ยังไม่มีการแก้ไข เคยไปร้องยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสระบุรี ผู้ว่าราชการ ก็ได้ให้ศูนย์ยุติธรรมชุมชนตำบลเตาปูน นัดผู้ร้องและคู่กรณีเข้ามาตกลงไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาท เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลเตาปูน และทำบันทึกข้อตกลงไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาทต่อหน้าผู้ไกล่เกลี่ย ซึ่งมีข้อความตามที่จะกล่าวดังนี้

1. นายสมพร สุขศิลา คู่กรณี รับปากจะกำราบสุนัขไม่ให้ เห่า หอน ส่งเสียงดังรบกวน สร้างความเดือดร้อน รำคาญ ให้แก่ผู้ร้องและประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงอีก

2. นายธีรศักดิ์ ตาละลักษณ์ ผู้ร้อง ตกลงขยายระยะเวลาให้ นายสมพร สุขศิลา คู่กรณี ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เป็นเวลาอีก 1 สัปดาห์ โดยเบื้องต้น

3. คู่กรณี และ ผู้ร้อง ตกลงร่วมกันว่า หากสุนัขของคู่กรณียังคงสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้ร้อง และประชาชนใกล้เคียงอยู่ คู่กรณีต้องดำเนินการเคลื่อนย้ายสุนัขออกโดยทันที โดยอนุญาตให้คงไว้ซึ่งสุนัขที่รักเพียง 2 ตัว ซึ่งการไกล่เกลี่ยเรื่องนี้มีมา 3 รอบแล้ว มีการทำหนังสือกันไว้เป็นลายลักษณ์อักษรเรียบร้อยแต่ปรากฏว่าแทนที่เจ้าของสุนัขจะปฏิบัติตาม กลับยังคงเพิกเฉย ปล่อยปัญหาล่วงเลยมาจนถึงปัจจุบัน มิหนำซ้ำ เจ้าของบ้านที่เลี้ยงสุนัข 26 ตัว จนเดือดร้อนรำคาญเพื่อนบ้านรายนี้ ยังนำเรื่องไปร้องเรียนกับมูลนิธิแห่งหนึ่ง (วอชด๊อก) อ้างว่าการมากดดันให้เจ้าของสุนัข นำสุนัขออกจากบ้านที่เลี้ยงไว้ไปไว้ที่อื่น เท่ากับเป็นการบีบบังคับให้เจ้าของสุนัข ทำผิดกฎหมายมาตรา 23 ที่ระบุว่า “ปล่อยทิ้งสัตว์ให้พ้นภาระ แล้วยังอาจต้องโดนข้อหาทารุณกรรมสัตว์อีกด้วย เพราะเป็นการนำสัตว์ไปปล่อยทิ้งในที่ที่ไม่มีสวัสดิภาพสัตว์หรือไม่” ทำให้คนที่ไม่เข้าใจประเด็นปัญหาความเดือดร้อนของเพื่อนบ้าน พากันเข้ามาคอมเมนต์เห็นด้วยกับเจ้าของสุนัขรายนี้เป็นจำนวนมาก เช่น ความคิดเห็นที่บอกว่า “เขาเลี้ยงของเขาอยู่ดี ๆ เกี่ยวอะไรกับพวก…คะ แชร์ด่วนเลยค่ะ” อีกความเห็นหนึ่งบอกว่า “ปัญหาของคนรักสัตว์ กับคนไม่รักสัตว์ ยากที่จะคุยกันรู้เรื่อง เพราะคนไม่ชอบสัตว์เป็นคนใจแคบ คิดว่าตัวเองเป็นสิ่งมีชีวิตที่สมควรอยู่บนโลกนี้ได้แต่เพียงผู้เดียว” กับอีกความเห็นที่บอกว่า “ถ้าไม่ชอบหมาแล้วทนไม่ได้ ก็ย้ายบ้านหนีไปค่ะ” ซึ่งนายธีรศักดิ์ บอกว่า ความเข้าใจผิดของชาวโซเชียล ที่ไม่ได้อยู่ใกล้ต้นตอของปัญหา และรับรู้ข้อเท็จจริงเหมือนคนในหมู่บ้านนี้ เหมือนเป็นการกดดัน ทำให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม่กล้าที่จะเข้าไปแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ ยืนยันว่าตนเองเป็นคนรักสัตว์ ไม่ได้รังเกียจสุนัข แต่คนที่เลี้ยงสุนัขจำนวนมากแบบนี้ ก็ควรมีวิธีการจัดการ ไม่ให้สิ่งที่ตนเองรัก ไปส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของผู้อื่นด้วย

ทางด้านนายธีรศักดิ์ ตาละลักษณ์ ผู้ร้องเรียน เผยว่าตอนนี้อยากให้เจ้าของสุนัขที่เลี้ยงไว้ 26 ตัวนั้นออกจากพื้นที่ เนื่องจากสงสารชาวบ้าน สงสารความเดือดร้อนของคนที่อยู่อาศัยกันบ้าง อย่าคิดว่าจะรักสัตว์อย่างเดียว ซึ่งรักก็ใครว่าหรอก ขอให้คิดถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านบ้าง คือควรหาทางออกร่วมกัน ใช่ว่าปล่อยเพิกเฉยแบบนี้ ทำให้ได้รับผลกระทบที่หนัก ทั้งทางด้านจิตใจ สุขภาพจิตก็เสื่อม จะมีใครเข้ามาเยียวยาเราได้ มีเพียงตนเพียงคนเดียวที่ต้องวิ่งร้องเรียนอยู่คนเดียว ซึ่งคนอื่นๆก็กล้า เนื่องจากเกรงอำนาจบารมีของเขา ซึ่งตนเองต้องการเอาความถูกต้อง คือแค่เอาสิทธิที่ควรมีของประชาชน ตนไม่ต้องการที่จะเอาชนะกับใครๆ และไม่ต้องการที่จะมีเรื่องกับใคร ไม่อย่างนั้นคงไม่ต้องานั่งทนอยู่แบบนี้เป็นปีๆ จึงได้รบกวนสื่อ และหาหน่วยงานที่ช่วยเหลือได้เข้ามาช่วย นายธีรศักดิ์กล่าวเสริมว่า ตอนนี้ตนเองเสียสุขภาพกาย สุขภาพจิตเอามากๆ เนื่องจากเสียงหมาที่ เห่า หอน ตั้งแต่ ตี 2 ตี 3 ยันเช้า ตนเองเคยไปปรึกษา และพูดคุยกับเจ้าของหมาแล้ว หาทางออกร่วมกันก็แล้ว จึงอยากให้มีหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ แต่สุดท้าย 3 ครั้งไปแล้ว ตนเองไปร้องเรียนตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน ปีที่แล้ว ตนเองก็ยังงงว่าทำไปเสียงหมาถึงได้เยอะขนาดนี้ จึงได้ไปถามเจ้าของหมา จึงได้รู้ว่ามีหมาที่เลี้ยงไว้อยู่ 26 ตัว ซึ่งตนเองก็ตกใจว่าทำไมถึงเยอะขนาดนี้ ส่วนในละแวกเพื่อนบ้านก็ได้รับความเดือดร้อน แต่ไม่มีใครกล้าพูด กล้าร้องเรียน เนื่องจากไม่มีใครอยากที่จะไปทะเลาะด้วย เนื่องจากว่าเจ้าของสุนัข ทำงานอยู่ที่ อบต.ด้วยก็เลยมี่ใครกล้ายุ่ง ส่วนที่ตนเองร้องนั้น ตนเองทนไม่ไหวจริงๆ ก็เลยต้องทำทุกวิถีทาง ทุกขั้นตอนตามระบบข้าราชการทุกอย่าง ก็ยิ่งช้านานวัน เคยไปร้องศูนย์ราชการ ก็มีคำสั่งจาก ผู้ว่ามาว่า เฮดไลด์ในวันที่ 17 กรกฎาคม จะต้องมีการแก้ไขให้เรียบร้อย แต่ก็ก่อนที่จะถึงวันที่ 17 กรกฎาคม ทางเจ้าของหมาได้ไปแจ้งมูลนิธิแห่งหนึ่ง (วอชด๊อก) ก่อน ทางเจ้าหน้าที่กลัวว่าจะโดนข้อทารุณกรรสัตว์ ก็เลยต้องชะลอกันไปก่อน โดยส่วนตัวแล้วตนเองคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันหนักมาก จะจะให้ใครก็ได้มาลองนอนดูสักคืน จะได้รู้ว่าตนเองนั้นเดือดร้อนขนาดไหน ตนเองอยากจะให้แม่ของตนกลับเข้าอยู่ กลับมาพักผ่อนที่นี่ แล้วมาเจอสภาพแบบนี้ใครจะไปอยู่ได้ อยากให้ใครก็ได้มาทดลองดูสักหน่อยจะได้รู้ว่าตนเองนั้นอึดอัด อดทนมาขนาดไหน ตนเองเคยไปคุยกับเขา เขาก็ด่ากลับมาว่า ไปผูกคอเสียไป ทนไม่ได้ หมาเห่า หมาหอน เป็นเรื่องธรรมชาติ อยู่ไม่ได้ก็ย้ายไป

ข่าวโดย ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดสระบุรี

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ