ธุรกิจ หนุนเศรษฐา นั่งนายกฯ ชี้รอบรู้ธุรกิจ-บริหารงานได้ดี ลุ้นโหวตจบ4ส.ค.
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม สำนักข่าวดัง รายงานว่า นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีวันที่ 4 สิงหาคม ภาคเอกชนคาดหวังว่าจะได้บุคคลมาเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 จากนั้นใช้เวลาในการจัดตั้งรัฐบาล แม้จะล่าช้าเล็กน้อยจากที่เคยคาดหมายไว้ก็ยังพอรับได้ แต่ถ้ายืดยาวออกไปจะมีความเสี่ยง ไม่ว่าฝ่ายการเมืองใดจะมาเป็นรัฐบาล เอกชนพร้อมร่วมทำงานด้วยหมด สิ่งสำคัญคือการเดินหน้าประเทศ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งเพิ่งผ่านพ้นช่วงของโควิด ขณะนี้ยังเรียกว่าช่วงการฟื้นตัว
นายวิศิษฐ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาผู้ประกอบการและประชาชนยังเดือดร้อนจากผลกระทบโควิด ตามมาด้วยภาวะเงินเฟ้อ ราคาสินค้าเพิ่มขึ้น 5 เท่า แต่ประชาชนยังคงมีเงินจับจ่ายจากรัฐบาลช่วยเหลือ แม้เงินเฟ้อไทยจะไม่เกิดในราคาอาหาร เพราะไทยผลิตอาหารเองได้ แต่ราคาไปเพิ่มด้านพลังงานที่ส่งผลกระทบอยู่มากเช่นกัน สิ่งที่ต้องติดตามต่อคือ เมื่อเงินเฟ้อสูง ประเทศใหญ่ ประเทศมหาอำนาจ ก็ออกมาตรการกดดันเงินเฟ้อด้วยการขึ้นดอกเบี้ยแรงๆ ซึ่งมีผลกระทบอื่นๆ ตามมาอีกมาก เรื่องเหล่านี้จำเป็นที่ต้องให้รัฐบาลเข้ามาช่วยดูแล ดังนั้น จึงควรที่จะจัดตั้งรัฐบาลให้ได้โดยเร็ว
เมื่อถามว่า มองอย่างไรหากนายเศรษฐา ทวีสิน จากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี นายวิศิษฐ์กล่าวว่า ทุกฝ่ายคงมองในเรื่องธุรกิจและเศรษฐกิจ ซึ่งนายเศรษฐาน่าจะถนัดและนำการบริหารได้ดี ส่วนที่เหลือเป็นเรื่องเสถียรภาพรัฐบาลและความมั่นคงทางการเมือง และการทำงานร่วมกันของแต่ละพรรคการเมือง ไม่ว่าจะพรรคร่วม พรรคฝ่ายค้าน หากไปด้วยกันได้ การบริหารเศรษฐกิจและการเมืองเดินหน้าได้ราบรื่น จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นการลงทุน อสังหาฯหนุนเศรษฐา-รับได้ทุกสูตร นายอิสระ บุญยัง ประธานคณะกรรมการอสังหาริมทรัพย์ออกแบบและก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า
การโหวตนายกฯในวันที่ 4 สิงหาคม คาดว่าจะเป็นนายเศรษฐาและน่าจะผ่านไปได้ด้วยดี โดยแนวโน้มพรรคก้าวไกลคงไม่ได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วย ส่วนตัวมองว่าคุณเศรษฐามาจากนักธุรกิจ คงเข้าใจปัญหาต่างๆ ทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศที่เรากำลังเผชิญอยู่ขณะนี้ ดังนั้น การจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ฟื้นความเชื่อมั่น การที่มีการสลับขั้ว สลายขั้ว เพื่อจัดตั้งรัฐบาล โดยมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ เมื่อเป็นเพื่อไทยก็เบาใจ เพราะเมื่อพรรคอันดับหนึ่งจัดตั้งไม่ได้ ยังเป็นพรรคอันดับสอง ไม่ว่าจะสูตรไหนรับได้หมด เพราะทุกพรรคก็ผ่านการเลือกตั้งกันมา ขอให้ตั้งได้เร็วๆ ส่วนพรรคก้าวไกลหากเป็นฝ่ายค้าน เขาทำหน้าที่ได้ดีในเรื่องของการตรวจสอบ จะเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองต่อไป
อยากมีนายกฯคนที่30โดยเร็ว นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวว่า นายเศรษฐาเป็นผู้ที่มีความเหมาะสม มีความรู้ในเรื่องเศรษฐกิจ น่าจะมีความเข้าใจปัญหา และแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศได้ สร้างความเชื่อมั่นเรื่องการค้าการลงทุน ส่วนพรรคเพื่อไทยก็มีประสบการณ์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก
จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล คนไทยทั้งประเทศอยากจะมีนายกฯคนที่ 30 โดยเร็ว เพื่อมีรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศอย่างต่อเนื่อง และทำให้การขับเคลื่อนภาครัฐ ทั้งการบริโภค การลงทุน และงบประมาณ รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นการค้า การลงทุนภาคเอกชนทั้งในและนอกประเทศ จะได้มีความต่อเนื่องในการเดินหน้าเศรษฐกิจ นายแสงชัยกล่าว