เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 26 ก.ค. 2566 ที่รัฐสภา นายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังสังคมใหม่ กล่าวถึงข้อเสนอแก้ไขเอ็มโอยูของ 8 พรรคร่วม ว่า เนื่องจากเอ็มโอยู ที่เขียนครั้งแรก เพื่อสนับสนุน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี และนโยบายทั้ง 23 ข้อ เป็นนโยบายของพรรคก้าวไกล

แต่ขณะนี้พรรคก้าวไกล ส่งไม้ต่อให้กับพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลแล้ว จึงเห็นว่าเอ็มโอยูที่เคยทำ ไม่สามารถใช้ได้แล้ว จึงเสนอให้พรรคเพื่อไทยทำเอ็มโอยูใหม่ ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยจะทำใหม่หรือไม่ ถือเป็นสิทธิ์ของพรรคเพื่อไทย รวมทั้งการจะนำพรรคใดเข้ามาร่วมรัฐบาล เพื่อให้ได้เสียงครบ 375 เสียง หรือจะยึดมั่นใน 8 พรรคก็ได้

เมื่อถามว่าหากมีการฉีกเอ็มโอยูเดิมจะกระทบความสัมพันธ์กับ 8 พรรคร่วมหรือไม่ นายเชาวฤทธิ์ กล่าวว่า อยู่ที่พรรคเพื่อไทยว่าจะยึดถือเอ็มโอยูเดิม หรือจะแก้ไขให้สนับสนุนแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย แต่พรรคร่วมก็ยังเหมือนเดิม เพียงแค่เปลี่ยนข้อความเท่านั้น เพราะใน เอ็มโอยู ทุกข้อเป็นนโยบายของพรรคก้าวไกลทั้งหมด หากมีการประชุม 8 พรรคร่วม ตนจะนำเรื่องนี้เข้าไปประชุมหารือด้วย เมื่อถามว่าเสียงของ 8 พรรคร่วมขณะนี้ที่มี 312 เสียง อาจไม่พอสนับสนุน ควรดึงพรรคที่ 9 พรรคที่ 10 เพิ่มหรือไม่ นายเชาวฤทธิ์ กล่าวว่า

อยู่ที่พรรคเพื่อไทย เพราะทั้ง 8 พรรค มอบให้พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำประสานพรรคอื่น รวมถึงหาเสียงสนับสนุนจาก สว. ถ้าจะมีพรรคอื่นเข้ามาร่วมด้วย ตนไม่ติดใจเพราะได้มอบให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแล้ว ส่วนที่ตั้งข้อสังเกตว่า เพื่อไทยกำลังผลักก้าวไกลออกจากพรรคร่วม นายเชาวฤทธิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่แบบนั้น เพราะที่พรรคเพื่อไทยเชิญพรรคต่างขั้ว เข้ามาพูดคุย เพียงแค่ปรึกษาหารือหาทางออก และให้คำแนะนำว่ามีปัญหาตัดขัดตรงไหนที่ 8 พรรคร่วมจะต้องแก้ไขอย่างไร