ชาติพัฒนากล้าประกาศด่วน หลังหารือกับเพื่อไทย ชัดเจนแล้ว
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 22 ก.ค.2566 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า และนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมแกนนำทั้ง 2 พรรค ร่วมกันแถลงข่าวหลังการหารือจัดตั้งรัฐบาล
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยขอบคุณพรรคชาติพัฒนากล้าที่มาร่วมหารือ หลังได้รับมอบภารกิจจากพรรคก้าวไกลให้จัดตั้งรัฐบาล ด้วยการหาเสียงสนับสนุนจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเป็นสิ่งที่รอไม่ได้จะสร้างความเสียหาย
นายสุวัจน์ กล่าวว่า ก่อนมาหารือกับพรรคเพื่อไทย ได้ประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อกำหนดท่าทีในการเข้าร่วมรัฐบาล ซึ่งกรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการมีมติพรรคเรื่องจุดยืนเข้าร่วมรัฐบาล โดยยินดีหนุนการจัดตั้งรัฐบาลจากการเลือกตั้ง เพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง โดยพรรคชาติพัฒนากล้ามีจุดยืนทางการเมืองที่ประกาศไปก่อนการเลือกตั้ง 4 เรื่อง ซึ่งได้มีมติพรรครับรองทั้ง 4 เรื่องนี้ คือ 1.พรรคจะหนุนให้เกิดรัฐบาลเสียงข้างมาก ไม่เอารัฐบาลเสียงข้างน้อย 2.มีแนวทางหนุนพรรคการเมืองเสียงอันดับ 1 ตั้งรัฐบาล แต่ถ้าตั้งไม่ได้ พรรคอันดับรองลงมาเป็นผู้จัดตั้ง 3.อยากเร่งรัดให้แกวิกฤตเศรษฐกิจ 4.จุดยืนกับมาตรา 112 ว่าขอคงไว้และไม่มีการแก้ไข
นายสุวัจน์ กล่าวว่า โดยพรรคต้องการรักษาแนวทางการเมืองและคำมั่นที่ให้ไว้กับประชาชน ฉะนั้นหลังประชุมรัฐสภาไป 2 ครั้งและไม่ได้นายกฯ จึงนำไปสู่การเปลี่ยนพรรคแกนนำจากก้าวไกลมาเป็นเพื่อไทย ประกอบกับเป็นเสียงข้างมาก โดยการนำของเพื่อไทยจะนำไปสู่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ พรรคจึงมีความเห็นว่าเป็นไปตามเกือบทุกข้อ โดยพรรคชาติพัฒนากล้าพร้อมเข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทย และพร้อมหนุนแคนดิเดตพรรคเพื่อไทย
นายสุวัจน์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องแก้ 112 ของพรรคก้าวไกลนั้น หากยังคงอยู่จะไม่สอดคล้องกับมติพรรคชาติพัฒนากล้า จึงอาจไม่ร่วมกับพรรคเพื่อไทยได้ หากยังมีเรื่องนี้ เพราะไม่เป็นไปตามมติพรรค 4 ข้อ โดยหากยังมีการแก้ไขมาตรา 112 จะไม่เป็นไปตามมติพรรค หากยังมีการแก้ไขมาตรา 112 ก็คงเข้าร่วมรัฐบาลไม่ได้
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนากล้าติดเงื่อนไขในมาตรา 112 พรรคเพื่อไทยจะนำเรื่องนี้ไปแจ้งยัง 8 พรรคร่วม ส่วนพรรคก้าวไกลจะถอนตัวหรือไม่ ขึ้นกับการพิจารณาของพรรคก้าวไกล เพราะเพื่อไทยทำตาม 8 พรรคร่วมที่รับมาดำเนินการ