#ศาลรัฐธรรมนูญ หนังเรื่องเดิมกำลังฉายซ้ำ ย้อนเทียบเคส ธนาธร ก่อนถึง พิธา
เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา เพื่อทำการโหวตนายกรอบที่ 2 ซึ่งระหว่างการอภิปรายในสภากันอยู่นั้น ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไหล หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ชั่วคราว
จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย จากเหตุมีชื่อถือครองหุ้นสื่อบริษัท itv จำกัด มหาชน จำนวน 42,000 หุ้น ทำให้ พิธา กล่าวคำอำลาและหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที ซึ่งสร้างความไม่พอใจต่อประชาชนหลายคน
ต่อมา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้โพสต์ภาพคู่กับคุณพิธาลงไอจี พร้อมกับข้อความว่า ค่ำคืนนี้ มาให้กำลังใจคุณพิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล หนทางยังอีกไกล ขอให้เข้มแข็ง นำพี่น้องประชาชนไทยสู่อนาคตอันสดใสต่อไป ซึ่งก็สร้างความอิมแพคอย่างมากนะครับ ให้กับประชาชนที่สนับสนุนทั้งคู่
จากนั้นชาวเน็ตก็ได้มีการถกกันสนั่น มองว่าเคสที่เกิดขึ้นกับคุณพิธานั้น ไม่ต่างอะไรกับเคสของคุณธนาธรเลย ถูกศาล รธน. สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. เหมือนกัน พร้อมกับคดีถือหุ้นสื่อเช่นเดียวกัน พร้อมบอกว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้ ถูกแต่งตั้งมาจากยุค คสช. เคยตัดสินคดีหุ้นสื่อของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ รวมถึงยุบพรรคอนาคตใหม่มาแล้วด้วย
จากคดีของ ธนาธร สู่คดีของ พิธา กับบทสรุปที่ไม่ได้แตกต่างกัน เหมือนกับหนังม้วนเดิมที่นำมาฉายซ้ำไม่มีผิด เพราะย้อนกลับไปเมื่อ 25 มี.ค. 62 นายศรีสุวรรณ จรรยา ได้ยื่นคำร้องต่อ กกต.
ให้ตรวจสอบการถือหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) ที่ห้ามผู้เป็น ส.ส. เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้น ในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดหรือไม่
หลังจากรับเรื่อง วันที่ 16 พ.ค. 62 กกต.ได้ส่งร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้พิจารณาวินิจฉัยสมาชิกภาพของนายธนาธร ต่อมาเมื่อวันที่ 20 พ.ย. 62 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายธนาธร สิ้นสภาพสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากเหตุถือหุ้นใน บริษัท วีลัค มีเดีย จำกัด จึงทำให้อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พ้นสภาพการ ส.ส.โดยมีผลนับตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. 62
เรียบเรียง siamnews