เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงชนรถจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิต ที่บริเวณสี่แยกเดชาติวงศ์ ฝั่งขาล่อง อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ หลังจาก ร.ต.อ.รัฐพล ขวัญเซ่ง รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้รับแจ้งเหตุดังกล่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกับเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย และแพทย์เวรโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์

ที่เกิดเหตุพบร่างนายเดช อายุ 77 ปี ชาว อ.เมืองนครสวรรค์ เสียชีวิตอยู่ในสภาพน่ากลัว เพราะร่างกายตั้งแต่ช่วงบนจนถึงช่วงล่าง อยู่ในสภาพถูกรถบรรทุกพ่วงเยียบทับจนแหลกไปหมด ในที่เกิดเหตุมีรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ล้มคว่ำอยู่ข้างกับศพ ใกล้กันพบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ทะเบียน 82-8999 ลพบุรี มี นายวราเทพ อายุ 33 ปี ชาว จ.ลพบุรี เป็นคนขับ เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดรถบรรทุกพ่วงไว้ตรวจสอบ พร้อมกับนำตัวคนขับรถไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองนครสวรรค์

จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพักในพื้นที่ ต.วัดไทร อ.เมืองนครสวรรค์ เพื่อติดตามภรรยาไปที่โรงพยาบาล ซึ่งก่อนหน้านี้ภรรยาถูกนำตัวขึ้นรถของโรงพยาบาล นำไปส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ (เขาเขียว) เพื่อไปรับการผ่าตัดนิ่ว ซึ่งก็ใช้เส้นทางถนนหลวงขับขี่จากบ้าน และนำรถของโรงพยาบาลล่วงหน้ามาก่อน เพื่อไปรอติดตามอาการภรรยาด้วยใจเป็นห่วง แต่เมื่อมาจอดติดสัญญาณไฟแดงอยู่ที่บริเวณสี่แยกเดชาติวงศ์ โดยจอดอยู่ที่บริเวณด้านหน้าข้างวรถบรรทุกพ่วงของคู่กรณี เมื่อได้สัญญาณไฟเขียว ปรากฏว่าเจ้าตัวยังไม่ทันได้เคลื่อนตัวออกรถ ก็ถูกล้อด้านข้างฝั่งซ้ายของรถบรรทุกพ่วงคู่กรณีเหยียบทับ จนเสียชีวิตอย่างสยดสยองดังกล่าว

สอบถามนายวราเทพ คนขับรถบรรทุกพ่วง ให้การว่า ขับรถเดินทางมาคนเดียว และเพิ่งจะเดินทางไปส่งสินค้าที่ อ.เมืองกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร ก่อนจะตีรถเปล่าเดินทางกับไปยัง จ.ลพบุรี เพื่อเตรียมรับสินค้าไปส่งต่อ แต่เมื่อรถมาจอดติดสัญญาณไฟแดงสี่แยกเดชาติวงศ์เป็นคันที่ 3 ของขบวน ก็ไม่ทราบว่า มีรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตขี่มาจอดอยู่ที่ด้านหน้าข้างซ้ายของรถตอนไหน เพราะมองไม่เห็น มุมนั้นมันอับสายตามาก ซึ่งพอถึงเวลาจังหวะที่ไฟเขียวให้รถเคลื่อนตัว ตนก็ขับออกไปตามปกติ โดยเกียร์แรกไม่มีอะไร แต่เมื่อรถเคลื่อนตัวออกไปได้ 2 เกียร์ ก็ต้องตกใจ เมื่อล้อช่วงกลางรถมันสะดุด แล้วรถกระเด้งเสียงดังเหมือนไปเหยียบกับอะไรบางอย่าง จึงได้รีบจอดรถแล้วออกมาดู ก็ต้องตกใจ เมื่อพบว่ามีศพคนคาล้อรถบรรทุกพ่วงของตน

ด้าน นายกฤษฎา อายุ 49 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนได้เหมารถของโรงพยายาบาล เพื่อให้นำแม่ส่งไปผ่าตัดรักษาอาการนิ่ว โดยให้พ่อขับขี่รถจักรยานยนต์นำหน้ารถพยาบาลมาก่อน แต่กลายเป็นว่า แม่เดินทางไปถึงโรงพยาบาล ส่วนพ่อต้องมาประสบอุบัติเหตุถูกรถบรรทุกพ่วงทับจนเสียชีวิตอย่างน่าอนาถ ทำให้ตนเสียใจมาก

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบปริมาณแอลกอฮอล์ของนายวราเทพ คนขับรถบรรทุกพ่วง พบว่า ปริมาณเป็นศูนย์ จึงเตรียมไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณแยกที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบรายละเอียดให้แน่ชัด ว่าฝ่ายใดขับขี่โดยประมาท ส่วนทางฝั่งของคนขับรถบรรทุกพ่วง มีพ่อได้เดินทางตามมาที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ เพื่อสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมกับเข้าไปกล่าวขอโทษและแสดงความเสียใจกับลูกชายของผู้เสียชีวิต