เป็นระยะเวลาเกือบร่วมเดือนภายหลังจากข่าว น้องเตย นักเรียนหญิงวัย 4 ขวบ ที่ต้องช่วยย่าตาบอดทำงานบ้าน และช่วยดูแลย่าที่จังหวัดบุรีรัมย์ ทั้งยังอาศัยในบ้านสภาพไม่ปลอดภัย ต่อมามีผู้ใจบุญบริจาคเงินช่วยเหลือน้องเตยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปิดรับยอดบริจาคไปเมื่อมียอดโอนมาแล้ว 5.9 ล้าน รวมถึงนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศกลางรายการเรื่องเล่าเช้านี้ว่าจะอุปการะน้องเตย และจะส่งเสียให้เรียนหนังสือจนจบ และเป็นอีกหนึ่งเคสที่ประชาชนให้ความสนใจอย่างมาก

ล่าสุด วันที่ 8 ก.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อาการตาบอดของย่าน้องเตยดีขึ้นหนึ่งข้าง พอมองเห็นเลือนราง แต่สภาพบ้านทุกอย่างยังเหมือนเดิม ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีการซ่อมแซมหรือปรับปรุงตามที่แต่ละหน่วยงานมาเสนอให้ตอนที่เป็นข่าว

จากการสอบถาม ครูอุ้ม ทราบว่า หลังจากเวลาผ่านไป ได้ไปติดต่อ อบต.ในพื้นที่ทราบว่าเงินที่ พมจ. และ อบจ. สัญญาว่าจะให้ยังไม่ตกลงมา แต่ถ้าได้เงินเมื่อไรจะทำการซ่อมแซมทันที แต่จะต้องซ่อมให้เสร็จภายใน 25 วัน นอกจากนี้ยังพบปัญหา ว่าบ้านที่น้องเตยอาศัยอยู่ กลายเป็นชื่อของหลานสามีของย่าน้องเตยไปแล้ว เนื่องจากสามีของนางเสา คือปู่ของน้องเตย ได้โอนบ้านและที่ดินให้กับหลานของนายเอียนไปแล้วเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา

ตอนนี้พยายามหาซื้อที่ดินให้น้องเตยในราคาที่เหมาะสมและอยู่ได้สองย่าหลาน แต่เกรงว่าจะทำเกินหน้าที่ จึงร้องขอให้ผู้สื่อข่าวมาเป็นอีกหนึ่งแรงในการตัดสินใจ ซึ่งหากได้ที่ที่เหมาะสม ราคาพอได้ ก็จะขอคำแนะนำกับผู้ที่เกี่ยวข้องจัดซื้อที่ดิน และเอางบประมาณราชการมาสร้าง หากไม่พอเอาเงินส่วนที่ได้รับบริจาคมาเสริม หลังจากนั้นน้องเตยและย่าน้อง คงจะอยู่อย่างมีความสุข ตามเจตนารมณ์ของผู้บริจาคต่อไป.