เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ศิริชัย โพธิจักร สว.สส.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุ คนผูกคอเสียชีวิต ที่บ้านพักหลังหนึ่ง ในพื้นที่ บ้านเชียงพิณ ต.เชียงพิณ

เมื่อไปถึงยังที่เกิดเหตุเป็นเพิงเล้าเป็ดเก่า หน้าบ้านไม้สองชั้น พบร่างนายสงกรานต์อายุ 46 ปี ใช้เชือกไนล่อนสีเขียวผูกคอกับขื่อเล้าเป็ด เจ้าหน้าที่นำร่างลงมา จากการชันสูตรไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย เสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ มาประมาณ 1-3 ชั่วโมง

นางชอบ อายุ 70 ปี แม่ผู้ตายเล่าว่า ผู้เสียชีวิตทำงานก่อสร้าง แต่งงานแยกครอบครัวไปอยู่กับภรรยาและลูกอายุ 14 ปี แต่เมื่อ 1 ปีก่อน ผู้เสียชีวิตกลับมาอยู่บ้านกับตน เพราะภรรยาไล่ให้กลับมาอยู่บ้าน เนื่องจากผู้เสียชีวิตชอบดื่มเหล้า แต่ยังรักครอบครัว ไปทำงานส่งเงินไปให้ภรรยาและลูกประจำ มักจะบ่นว่าคิดถึงเมีย แต่เมียไม่ยอมคืนดี เพราะผู้ตายดื่มเหล้า หากเลิกดื่มเหล้าจึงจะคืนดีด้วย ก่อนเกิดเหตุ ตนและสามีออกจากบ้านไปขายของที่ตลาดนัด อ.ศรีธาตุ ตั้งแต่เที่ยงคืน กระทั่งเย็นวันนี้ตนกลับมาบ้าน ก็พบลูกชายผูกคอเสียชีวิต ด้วยความตกใจและเสียใจจึงร้องไห้ และเปิดไฟและเรียกญาติมาดูพร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่

พี่สะใภ้ผู้เสียชีวิตเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ เช้าวันนี้ผู้เสียชีวิตได้เดินไปหาตนที่บ้าน และขอข้าวกิน ตนบอกว่ามีแต่ข้าวเหนียวนึ่ง ยังไม่มีกับข้าว ให้ทำกับข้าวกินเอง เพราะตนจะไปเก็บผักไปขายที่ตลาด ซึ่งผู้เสียชีวิตบอกว่าจะไปเบิกเงินกับนายจ้างส่งไปให้เมีย กระทั่งเที่ยงวันตนกลับมาบ้าน ก็ยังพบผู้ตายอยู่บ้าน ตนจึงถามว่ากินข้าวหรือยัง ผู้ตายตอบว่ากินตั้งแต่เช้าแล้ว และบ่นว่าไม่มีเงินส่งให้เมีย

ปกติหากผู้เสียชีวิตได้รับเงินค่าแรงที่ไปทำงานก่อสร้าง ก็จะให้ตนโทรเรียกเมียให้มาเอาเงิน แล้วเมียก็จะมาเอาเงินแต่ไม่ยอมคืนดีด้วย แต่วันนี้ได้ยินผู้เสียชีวิตบ่นว่า ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปให้เมียไปเสียค่าฌาปนกิจหมู่บ้าน และบ่นว่าถ้าเสียชีวิตเมียคงจะได้เงินฌาปนกิจ เป็นเงินก้อนสุดท้าย แต่อย่าผูกตนไว้ ให้ปล่อยไปหาลูกเมียด้วย ก็ไม่คิดว่าจะผูกคอจริงๆ

ทั้งนี้ ตำรวจ สันนิษฐานว่า ผู้ตายคิดมากที่ไม่มีเงินไปให้ภรรยาและลูก อีกทั้งน้อยใจที่ภรรยาไม่ยอมคืนดี จึงเกิดอาการน้อยใจ อาศัยช่วงที่ไม่มีใครอยู่บ้าน ใช้เชือกผูกคอตายในที่สุด ญาติไม่ติดใจ จึงมอบร่างให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ต่อไป