เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2566 สำนักข่าวดัง รายงานว่า นายสามารถ นิราช ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บ้านหนองบัว ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทา พร้อมนางจรูญ อายุ 74 ปี ผู้เสียหาย ได้ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้หลงเชื่อ ต้องสูญเสียเงิน 70,000 บาท พร้อมแหวนทองคำ 1 วง โดยมีชาวบ้านและพระสงฆ์ถูกหลอกไปแล้วหลายราย นางจรูญ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.หนองแหน หลังจากมีชาย 2 คน และหญิง 2 คน ขับรถเก๋งโตโยต้า สีดำ เข้ามาชวนคุยขณะตนอยู่บ้านเพียงลำพัง โดยหลอกว่ามีที่ดิน 17 ไร่ แต่ติดจำนองอยู่ที่นายทุนใน อ.บางคล้า หากไถ่ถอนออกมาขายจะได้ราคาไร่ละ 3.5 ล้านบาท รวมมูลค่า 59,500,000 บาท

นางจรูญ กล่าวอีกว่า ชายคนหนึ่งในแก๊งทำทีควักเงินสดแบงก์พันปึกใหญ่ออกมา ก่อนบอกว่าตอนนี้มีเงินสด 600,000 บาท ไม่พอที่จะไปไถ่ออกมาเพื่อเอาไปขาย จึงหลอกถามว่าตนมีเงินไหม ตนบอกมีอยู่ใน ธกส.พนมสารคาม 70,000 บาท มิจฉาชีพจึงบอกให้ไปเบิกมา แล้วจะแบ่งส่วนต่างที่ขายได้ให้ 200,000 บาท นางจรูญ กล่าวต่อว่า ตนถามว่าแล้วจะพอไถ่โฉนดออกมาได้หรือ เพราะเห็นบอกว่าจำนองไว้ 2,500,000 บาท หญิงวัยประมาณ 50 ปีกับชายในแก๊งทำทีคุยโทรศัพท์ว่าให้ญาติหาเงิน พร้อมจะขายทอง รวมแล้วขาดอยู่ 70,000 กว่าบาท

ทำให้ตนหลงเชื่อขึ้นรถเก๋งของคนร้ายไป ธกส.สาขาพนมสารคาม เบิกเงินหมดบัญชี แต่คนร้ายรออยู่ในรถกเก๋ง ไม่ได้ลงไปด้วย นางจรูญ กล่าวอีกว่า หลังเบิกเงินมา 70,000 บาท หญิงในแก๊งคนร้ายก็คว้าเงิน พร้อมให้ตนถอดแหวนทองเพื่อจะเอาไปขาย ตนจึงถอดแบบงงๆ จากนั้นก็พาตนมาส่งที่บ้าน แล้วหลอกว่าตนลืมถ่ายเอกสารบัตรประชาชน ตนจึงขี่รถจักรยานยนต์รีบไปที่บ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเพื่อถ่ายเอกสาร นางจรูญ กล่าวต่อว่า เมื่อตนตั้งสติได้จึงบอกผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านว่าถูกหลอก เมื่อกลับมาก็พบว่าแก๊งมิจฉาชีพหายไปแล้ว อยากให้ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามจับโจรมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว