จากกรณีญาติออกมาร้องเรียนสื่อให้ช่วยตามหาเครือญาติ 5 คน ที่หายตัวไปอย่างปริศนาจาก อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2566 หลังจากมีชายคนสนิทมารับไป ขาดการติดต่อนานกว่า 3 เดือน เชื่อว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับขบวนการการค้ามนุษย์

ทั้งนี้ ผู้ที่หายตัวไปประกอบด้วย

อุษา ปานรอด อายุ 43 ปี

ชนนิกานต์ โตชะนก อายุ 22 ปี

ศศิประภา รุจิตร อายุ 13 ปี

พรพิพัฒน์ ปานรอด อายุ 13 ปี

ญาสุมินร์ โจมฤทธิ์ อายุ 22 ปี

รายงานว่า รอง ผกก.สืบสวน ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ให้ข้อมูลว่า นายลมกรด แสงสว่าง หรือชื่อเล่นคือ แบงค์ แฟนของ น.ส.ชนนิกานต์ คือคนที่เช่ารถตู้จาก จ.พะเยา โดยที่มีนายนพดล เพื่อนของนายแบงค์ เป็นเจ้าของรถตู้ และนายนพดลก็ติดรถไปด้วยกัน

ด้านนายนพดล อ้างว่า ขับพาทุกคนไปเที่ยวพัทยา จ.ชลบุรี และ กทม. แต่ระหว่างนั้นแม่ของนายนพดลเสียชีวิต นายนพดลจึงขอแยกตัวออกมาและกลับที่พะเยาก่อน ส่วนนายลมกรดที่ติดรถไปด้วย ก็อาสาพาทั้งคณะขับรถเที่ยวกันต่อ ก่อนที่ทั้งหมดจะขาดการติดต่อไป

คดีดังกล่าว นายนพดล เจ้าของรถตู้ ให้การว่าเป็นเพียงคนขับรถ ไม่รู้เห็นกับการหายไปของทั้ง 5 คน เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาพรากผู้เยาว์กับ นายลมกรด, นายนพดล และ น.ส.ชนนิกานต์ โดย นายนพดล ยื่นประกันตัวออกไปเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ที่ผ่านมา

ด้าน น.ส.พิทยารัตน์ ญาติของทั้ง 5 คนให้ข้อมูลว่านายลมกรด เป็นคน จ.เชียงใหม่ คบหากับ น.ส.ชนนิกานต์ ประมาณ 5 เดือน นายลมกรดเคยแวะเวียนมาที่บ้านนับสิบครั้ง จึงคุ้นเคยกับครอบครัวเป็นอย่างดี ส่วน น.ส.ชนนิกานต์ พานายลมกรดมาแนะนำให้ นางอุษา ผู้เป็นแม่ได้รู้จัก

หลังจากนั้น นายลมกรด อ้างว่าเป็นเจ้าของปั๊ม และชักชวนให้ นางอุษา ร่วมลงทุนเปิดปั๊มน้ำมัน นางอุษา หลงเชื่อจึงนำที่ดินไปขายได้เงินมา 300,000 บาท แต่นายลมกรดอ้างว่าเงินดังกล่าวนั้นยังไม่พอ จึงหว่านล้อมให้ นางอุษานำรถกระบะไปขายฝากกับเต็นท์รถใน กทม. ได้เงินมาอีก 100,000 บาท รวมเป็นเงินกว่า 4 แสนบาท ก่อนที่ทั้งหมดจะหายไป