วันที่ 28 มิถุนายน 2566 ในเฟซบุ๊กเพจ โหนกระแส ได้มีการรายงานว่า หญิง อายุ 61 ปี ชาวบ้านโคกสำราญ ต.ถาวร อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือ โดยอ้างว่าได้ถูก อดีตลูกเขย อายุ 35 ปี ที่เคยอยู่กินกับลูกสาว หลอกเอารถยนต์ไปใช้ ก่อนเลิกรากับลูกสาวไปแต่ไม่ยอมคืนรถ หนีหายไปพร้อมรถยนต์ซึ่งซื้อดาวน์เป็นชื่อของแม่ยาย

อดีตลูกเขยรายนี้หนีไปนานกว่า 6 เดือนแล้ว ไม่ยอมจ่ายค่างวด ทำให้แม่ยายต้องหากู้ยืมเงินไปจ่าย เดือดร้อนมาก กลัวจะถูกดำเนินคดี ยึดบ้านและทรัพย์สิน เพราะอดีตลูกเขยเคยมีประวัติยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จึงกลัวจะนำรถไปใช้ทำสิ่งผิดกฎหมาย

ก่อนหน้านี้ อดีตลูกเขยได้มาอยู่กินกับลูกสาวที่บ้าน มีลูกด้วยกัน 2 คน แรกก็ทำตัวดี ขยันทำงาน ซึ่งลูกเขยกับลูกสาวทำงานรับส่งสินค้าทั้งในและต่างจังหวัด จนเมื่อเดือน ส.ค.2563 ตนจึงไปซื้อดาวน์รถยนต์ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์ 4 ประตู สีบรอนซ์ โดยซื้อดาวน์เป็นชื่อของตนเอง แต่ลูกสาวและลูกเขยช่วยกันจ่ายค่างวด ๆ ละ 10,953 บาท รวมทั้งหมด 84 งวด ที่ผ่านมาลูกสาวกับลูกเขยก็ส่งค่างวดมาตลอดเกือบ 3 ปี

กระทั่งปี 2566 ตั้งแต่เดือน ม.ค.จนถึงเดือน มิ.ย. รวม 6 เดือน ลูกเขยไม่ได้จ่ายค่างวดอีกเลย จนมีไฟแนนซ์มาติดตามทวงหนี้ค่างวดและจะมาขอยึดรถคืน ตนก็บอกว่ารถไม่ได้อยู่กับตน แต่อดีตลูกเขยเอาไป ก็รอให้อดีตลูกเขยเอารถยนต์มาคืนเหมือนกัน ทั้งนี้ มารู้ทีหลังว่าอดีตลูกเขยได้เลิกรากับลูกสาวของตนแล้ว และยังไปกับผู้หญิงคนอื่นอีก

แม่ยายกล่าวอีกว่า ตนพยายามติดต่อให้อดีตลูกเขย มาชำระค่างวดที่ค้างไว้ หรือถ้าไม่จ่ายก็ให้เอารถมาส่งคืนในสภาพเดิม แต่ตอนนี้ผ่านมากว่า 6 แล้วยังไม่ได้เอามาคืน เพราะตอนนี้ต้องกู้เงินไปจ่ายค่างวดแล้วกว่า 30,000 บาท เดือดร้อนมาก เคยหอบหลักฐานไป สภ.ถาวร เพื่อจะแจ้งความอดีตลูกเขยแต่ตำรวจไม่รับแจ้ง โดยบอกแค่ว่าเป็นคดีแพ่งต้องฟ้องเอาเอง

ตอนนี้เครียดมากกลัวอดีตลูกเขยจะเอารถไปใช้ทำสิ่งผิดกฎหมาย ทั้งกลัวจะถูกยึดบ้าน ยึดทรัพย์สิน เพราะอดีตลูกเขยเคยมีประวัติยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จากกรณีดังกล่าวก็อยากวิงวอนให้ผู้รู้กฎหมาย หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือด้วย