ยายตาบอด อยู่บ้านลำพัง ชาวบ้านเอาของมาให้ โดนขโมยเกลี้ยง ฟืนก่อไฟก็ไม่เหลือ

ยายตาบอด อยู่บ้านลำพัง ชาวบ้านเอาของมาให้ โดนขโมยเกลี้ยง ฟืนก่อไฟก็ไม่เหลือ

เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2566 จากกรณีที่เฟซบุ๊กเพจ ชุมชนข่าวขอนแก่น ได้มีการโพสต์เรื่องราวชีวิตของคุณยายรายหนึ่ง โดยได้ระบุว่า คุณยายหนูนา วัย 77 ปี ชาวบ้านนาดอกไม้ อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ตาบอดสองข้าง ต้องแกว่งถังเปล่างมทางลงไปตักน้ำในสระทุกวัน เพื่อนำมาใช้ทั้งหุงหาอาหารเอง อาศัยอยู่อยู่ลำพังกับเจ้าดำสุนัขคู่กาย คุณยายบอกว่า เหลือที่นาตัวเอง8ไร่ทำพินัยกรรมยกให้หลานสาวหลานชายคนละครึ่ง วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาข่วยเหลือหน่อย ยายบอกถูกขโมยของทุกอย่างใครให้อะไรมาก็ถูกขโมยหมด แม้กระทั่งฟืนก่อไฟ

ทั้งนี้ นางหนูนา เผยว่า เคยมีสามี และมีลูกสาว 1 คน แต่เมื่อหลายปีก่อนสามีทิ้งไปมีเมียน้อยที่จังหวัดเพชรบูรณ์ และเสียชีวิตไปแล้ว ส่วนลูกสาวติดยาบ้า และเกิดอาการป่วยแล้วเสียชีวิตที่รพ.เมื่อปี 2562 ซึ่งลูกสาวมีลูก 2 คน คนโตเป็นผู้ชายอายุ 21 ปี ส่วนหลานคนที่ 2 เป็นผู้หญิงเรียนอยู่ชั้น ม.4 และเมื่อปี 2562 ได้ก่อไฟนึ่งข้าวเหนียวไว้แล้วไปเก็บฟืน ทำให้ไฟไหม้บ้านทั้งหลัง จากนั้นเทศบาลตำบลหนองบัวก็มาสร้างบ้านหลังปัจจุบันให้อยู่อาศัย ส่วนหลาน 2 คนปู่ย่ามารับกลับไปเลี้ยงดู ส่วนลูกเขยก็กลับไปอยู่กับพ่อแม่

ยายป่วยเป็นโรคหอบหืด และโรคเบาหวาน ได้ 7 ปีแล้ว ไปรักษาตัวและรับยาจากรพ.บ้านฝางมากินตลอด ขณะนี้หมดนัด 3 เดือนครั้ง แต่เมื่อสองปีที่ผ่านมา อยู่ ๆ ตาข้างขวาก็มืดมิดมองไม่เห็น ไปหาหมอ หมอแจ้งว่า เกิดจากภาวะความเครียด รักษาไม่หาย ต่อมาข้างซ้ายก็พลอยบอดไปด้วย มองไม่เห็นอะไรเลย อยู่กันที่บ้านเพียงคนเดียว หลานชายรับจ้างทำงานกลางคืน แวะเอาอาหารเอาข้าวและเงินมาให้บ้าง ส่วนหลานสาวไม่ได้มาเพราะต้องเรียนหนังสือ

ยายหนูนา กล่าวทั้งน้ำตาว่า สิ่งของที่มาชาวบ้านเอามาให้ทั้งอาหาร ข้าวและน้ำดื่ม วางไว้ในบ้าน ก็มีขโมยเข้ามาเอาไปจนหมด ส่วนที่นาที่มีทั้งหมด 8 ไร่อยู่หลังบ้าน ได้ทำพินัยกรรมมอบให้หลานทั้ง 2 คน และในแต่ละปีเพื่อนบ้านมาเช่าทำนา และเอาข้าวมาแบ่งให้กิน จึงมีข้าวกิน และในแต่ละวันจะออกไปหาเก็บเศษไม้ในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อเอามาทำฟืนเอาไว้ก่อไฟนึ่งข้าวเหนียวกิน

เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมาออกไปหาฟืน แล้วหาทางกลับบ้านไม่ได้ อยู่ในป่าจนถึงเช้า กระทั่งมีเสียงสุนัขชื่อเจ้าดำเห่า จึงตัดสินใจคลานมาตามเสียงสุนัข จนกลับถึงบ้าน ส่วนอาหารนั้นจะมีพ่อค้ารถพุ่มพวงที่ตระเวนขายในหมู่บ้านแวะเอาอาหารมาให้ทุกเช้า จึงพอมีอาหารกินในทุกๆ วัน ตอนนี้สิ่งที่กังวลใจและกลัวคือ กลัวคนที่คิดว่าตนมีสมบัติ มาชิงทรัพย์ มาทำร้าย เพราะที่ผ่านมามีคนร้ายเข้ามาลักเอาข้าวในบ้าน ลักเอาฟืนและน้ำดื่มไป อยากให้หน่วยงานมาช่วยเหลือบ้าง

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ