เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวที่กำลังถูกพูดถึงกันเป็นจำนวนมาก เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานเรื่องราวสุดสลด เมื่อชายสูงอายุแซ่หลิวอาศัยอยู่ในบ้านพักย่านชุนอี้ เมืองหลวงปักกิ่ง ประเทศจีน วันหนึ่งเขาได้ซ่อมท่อน้ำที่อุดตันในบ้าน โดยไม่คาดคิดว่าจะพบซากปริศนาในนั้น เขาจึงรีบโทรแจ้งตำรวจด้วยความหวาดกลัว และหลังจากชันสูตรนายหลิวถึงกับเข่าทรุด เพราะซากดังกล่าวคือ ลูกสาว ของเขาที่หายตัวไปนาน 19 ปี

ตามรายงานระบุว่า ในอดีตลูกสาวของเขาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับทุกคน ไม่เคยสร้างศัตรูกับใคร ครั้งสุดท้ายที่เขาเห็นลูกสาวคือเมื่อ 19 ปีที่แล้ว แต่เขาคิดเสมอว่าลูกสาวของเขายังมีชีวิตอยู่ เพียงแค่อาศัยอยู่ในที่ห่างไกล และให้ข้อมูลสำคัญอีกอย่างหนึ่งว่าบ้านที่เขาพักอาศัยอยู่ตอนนี้ เคยเป็นบ้านของลูกสาวของเขาและลูกเขยมาก่อน

ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตระหนักว่า นี่เป็นการเรื่องราวที่ร้ายแรง ตำรวจจึงเริ่มดำเนินการสืบสวนอย่างรวดเร็ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทำการสอบถามเพื่อนบ้านรอบๆ และได้รับเบาะแสใหญ่ว่า ในอดีต นางหลิว หมิน และสามีมักโต้เถียงและขัดแย้งกัน สิ่งเหล่านี้ทำให้เจ้าหน้าที่สงสัยว่า สามีอาจเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้หลักฐานมาจึงทำการสอบสวนอย่างเข้มงวด

ต่อมา ตำรวจไปพบสามีของผู้เสียชีวิต ซึ่งอาศัยอยู่ในมณฑลเหอเป่ย ปัจจุบันเขากลายเป็นชายอายุเกือบ 60 ปี เมื่อเห็นตำรวจก็ไม่มีท่าทีแปลกใจหรือกลัว ตรงกันข้ามเขายิ้มอย่างพึงพอใจ และยอมรับสารภาพว่าเป็นคนทำร้ายภรรยา แม้แต่ตำรวจยังประหลาดใจที่เขาสารภาพอย่างรวดเร็ว โดยให้คำตอบที่ไม่คาดคิดว่า ผมรอให้ตำรวจมาจับนานแล้ว

ด้านสามีผู้เสียชีวิตยังเล่าว่า ตอนที่แต่งงานกันใหม่ๆ ทั้งคู่มีความสุขมาก แต่ชีวิตเช่นนี้อยู่ได้ประมาณ 1 ปีเท่านั้น เขาค่อยๆ สังเกตเห็นว่าภรรยามักจะออกไปจากบ้านก่อนเวลาและกลับดึก บางครั้งก็เมากลับบ้าน อีกทั้งเขายังพบว่า เธอมีชายอื่นข้างนอก ในฐานะสามีแน่นอนว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้

อย่างไรก็ตาม เขาเคยเตือนภรรยาให้ยุติความสัมพันธ์เหล่านั้น ตราบใดที่ภรรยาของเขายอมเปลี่ยนแปลงตัวเองเขาก็ยังให้อภัย แต่ภรรยาของเขายังคงคบชู้ต่อไป แม้แต่เพื่อนบ้านยังบอกว่าเห็นภรรยาไปเที่ยวกับชายอื่น สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกอายและโกรธมาก ไม่คาดคิดว่าภรรยาจะทำโจ่งแจ้งเช่นนี้

ในคืนเกิดเหตุ เขาเพิ่งกลับมาจากที่ทำงานและได้ยินภรรยาถามว่า คุณเอาสร้อยคอของฉันไปหรือเปล่า แม้ว่าเขาจะปฏิเสธแต่เธอก็ยังไม่เชื่อ ซ้ำเธอก็ยังคงตามาพูดถึงการหย่าร้างอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขาหยิบอิฐจากสนามตีที่ศีรษะภรรยา เธอล้มลงและหมดสติทันที เขาทำอะไรไม่ถูกจึงฝังร่างเธอไว้หลังบ้าน

หลังจากนั้นไม่นานก็ย้ายไปอาศัยอยู่ที่อื่น โดยโกหกทุกคนว่าภรรยาของเขาไปทำงานในที่ห่างไกล กระทั่งในปี 2551 พ่อของภรรยาย้ายไปอยู่บ้านหลังดังกล่าว โดยไม่รู้เลยว่าลูกสาวได้เสียชีวิตจากไปแล้ว จนมาพบร่างขณะที่ซ่อมท่อประปา จึงรู้ความจริงว่าเขาอาศัยอยู่ใกล้ที่ฝังร่างลูกสาวมาโดยตลอด

ล่าสุด ในช่วงสิ้นปี 2564 ศาลกรุงปักกิ่งได้นำคดีนี้ขึ้นสู่การพิจารณา สามีของผู้เสียชีวิตถูกตั้งข้อหาทำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต และถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต