พ่อสามีขี้เมาโหด เผาลูกสะใภ้ไม้เบื่อไม้เมาดับดำเป็นตอตะโกคากองเพลิง ถูกตำรวจจับยังปากแข็งแค่ฟันให้เจ็บแต่ไม่ได้เผา
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 8 มิ.ย.2566 พ.ต.ท.มนตรี วรรณคง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุฆ่าแล้วเผาที่บ้านเลขที่ 191/1 หมู่ 4 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งแล้วจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น แล้วจึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช,พ.ต.อ.โชคดี ศรีเมือง ผกก.,พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ ณ อุบล รอง ผกก.สส.,พ.ต.ท.ณัฐภัทร พุทธังกุโร สว.สส.,กำลังตำรวจชุดสืบสวน,สายตรวจป้อมศาลาบางปู ,ตำรวจพิสูจน์หลักฐานนครศรีธรรมราช,แพทย์เวร รพ.มหาราชนครศรีธรรมราชและจนท.มูลนิธิใต้เต๊กตึ้งไปที่เกิดเหตและรถดับเพลิงเทศบาลเมืองปากพูน
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุซึ่งอยู่บริเวณขนำหลังบ้านที่เกิดเหตุ พบสภาพขนำหลังคาสังกะสีสภาพถูกเพลิงไหม้จนวอดหมดทั้งหลัง ภายในกองเพลิง จนท.พบศพผู้เสียชีวิตชื่อ นส.นรมล เกตุแก้ว อายุ 29ปี ซึ่งเป็นลูกสะไภ้ของบ้านหลังดังกล่าว บ้านภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 30 หมู่ 2 ต.บางหมาก อ.กันตัง จ.ตรัง สภาพศพถูกไฟไหม้ดำเป็นตอตะโกหงิกงอทั้งร่าง นอนตายบริเวณซากกองเพลิงที่ใกล้ประตูขนำที่พัก
ส่วนคนร้ายไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นพ่อสามีของผู้ตายนั่นเอง ไม่ได้หลบหนีไปไหนแต่ยืนอยู่ใกล้ๆที่เกิดเหตุด้วยอาการเมาสุรากลิ่นเหล้าฟุ้ง ทางตำรวจจึงทำการจับกุมตัวคนร้ายซึ่งเป็นพ่อสามีของผู้ตาย สอบสวนทราบผู้ต้องหาชื่อนายเล็ก ขุนรัตน์ อายุ 60ปี พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่เกิดเหตุเลขที่ 191/1 หมู่ 4 ต.ปากพูน อ.เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งนายเล็ก ผู้ต้องหายังมีอาการมีนเมาสุราพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องตลอดเวลา โดยจากการสอบสวนเบื้องต้นนายเล็กฯผู้ต้องหารับสารภาพว่ามีเรื่องปากเสียงทะเลาะกับลูกสะไภ้จนกลายเป็นไม้เบื่อไม้เมาเป็นประจำเกือบทุกวัน
นายเล็ก ให้การรับสารภาพว่าก่อนเกิเหตุขณะมีปากเสียงทะเลาะกับลูกสะไภ้บริเวณหน้าขนำหลังบ้านที่เกิดเหตุ ด้วยความโมโหตนได้ใช้มีดพร้าที่วางอยู่ใกล้ๆฟันเข้าบริเวณขาทั้งสองข้างจนลูกสะไภ้ฟุบลง และพยายามหลบหนีเข้าไปในขนำหลังบ้าน ตนจึงตามไปปิดล็อคประตูไม่ให้ลูกสะไภ้ออกมาด้านนอก จนเกิดเพลิงไหม้ขนำคลอกร่างลูกสะไภ้ดำเป็นตอตะโกตายคาซากกองเพลิงดังกล่าว โดยตนขอปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนจุดไฟเผาขนำดังกล่าว แต่ไม่รู้เพลิงไฟขึ้นมาได้อย่างไร
พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เผยว่าจากการสอบสวนปากคำแม้นายเล็กฯผู้ต้องหาพ่อสามีจะรับสารภาพเพียงแค่ใช้มีดพร้าทำร้ายร่างกายนส.นรมล ลูกสะไภ้ผู้ตายเท่านั้นและไม่ได้เป็นคนจุดไฟเผา ซึ่งตำรวจมั่นใจในพยานและหลักฐานมัดตัวแน่นหนา ซึ่งจะเร่งทำการสืบสวนสอบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อมัดตัวนายเล็ก ผู้ต้องหารายนี้ดำเนินคดีตาม กม.ต่อไป
หลังเกิดเหตุไม่นานได้มีนายกนกพงศ์ ขุนรัตน์ อายุ 30ปี(ไม่สวมเสื้อ) อาชีพรับจ้างตัดปาล์มน้ำมัน ซึ่งเป็นสามีของผู้ตายและเป็นลูกชายของผู้ก่อเหตุ ได้รีบเดินทางมาที่เกิดเหตุเมื่อเห็นศพของภรรยาถึงร่ำไห้โฮตลอดเวลา ให้การว่าตนและผู้ตายอยู่กินฉันสามีภรรยามานานประมาณ10ปีแล้วแต่ยังไม่มีลูกด้วยกัน ซึ่งตลอดเวลาที่ตนพาภรรยามาพักอาศัยอยู่ที่บ้านของตนได้ถูกผู้เป็นพ่อของตนซึ่งชอบดื่มเหล้ามักจะหาเรื่องทะเลาะกับภรรยาของตนเป็นประจำ แต่ครั้งนี้รุนแรงถึงฆ่าแล้วเผาภรรยาของตนซึ่งตนรับไม่ได้จริงๆ ไม่นึกเลยว่าพ่อตนจะทำกับเมียของตนได้ขนาดนี้ นายกนกพงศ์ฯสามีผู้เสียชีวิตให้การกับตำรวจในที่สุด
ทีมข่าวสยามนิวส์