รายงานข่าวจาก กระทรวงพลังงาน ระบุว่า กระทรวงการคลังได้แจ้งความคืบหน้ามาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซลลิตรละ 5 บาท ที่จะครบกำหนดวันที่ 20 ก.ค.นี้ ว่าจะไม่ขยายเวลามาตรการดังกล่าว เนื่องจากต้องรอรัฐบาลชุดใหม่มาตัดสินใจ เพราะมีผลกระทบกับงบประมาณการเก็บภาษีของกรมสรรพสามิตที่ต้องหายไปด้วย

ทั้งนี้สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ได้ดำเนินการกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องกองทุนน้ำมันฯ รวม 2 ก้อนแล้ว 50,000 ล้านบาท จากสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ได้บรรจุวงเงินหนี้สาธารณะไปแล้วรวม 110,000 ล้านบาท แบ่งเป็นกู้รอบแรก 30,000 ล้านบาท ตั้งแต่ปลายปี 2565 ซึ่งกองทุนน้ำมันฯ ได้นำไปชำระหนี้ผู้ค้ามาตรา 7 หมดแล้ว และรอบที่ 2 อีก 20,000 ล้านบาท ซึ่งจะเหลือวงเงินกู้อีก 60,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการเปิดกู้รอบใหม่

สำหรับสถานะกองทุนน้ำมันฯ วันที่ 21 พ.ค. 2566 ติดลบอยู่ที่ 72,731 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 26,111 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 46,620 ซึ่งมากกว่าบัญชีน้ำมันแล้ว เนื่องจากปัจจุบันกองทุนน้ำมันยังใช้เงินพยุงราคาก๊าซหุงต้ม LPG เฉลี่ย เดือนละประมาณ 600 ล้านบาท ตกวันละ 25 ล้านบาท ซึ่งการกู้เงินก้อนที่เหลือจะนำมาชำระหนี้ผู้ค้ามาตรา 7 อีกราว 70,000 ล้านบาท

ที่ผ่านมาครม.อนุมัติให้กระทรวงการคลังค้ำประกันเงินกู้ให้กับสกนช. ในกรอบวงเงินรวม 1.5 แสนล้านบาท และต้องดำเนินการกู้เงินให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 5 ต.ค.66 นี้ แต่สถานการณ์ราคาพลังงานโลกที่ลดลงในช่วงนี้ สบน. จึงเห็นว่าการกู้เงินที่ 1.1 แสนล้านบาทน่าจะเพียงพอแล้ว และควรรอให้รัฐบาลชุดใหม่มาร่วมตัดสินใจ และเมื่อกระทรวงการคลังไม่ต่อภาษีดีเซลอาจส่งผลกระทบต่อสถานทางการเงินและรับภาระเพิ่ม 5 บาททันที

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การยกเลิกลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน 5 บาทต่อลิตรที่สิ้นสุดในวันที่ 20 ก.ค.นี้ จะทำให้ราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้นเป็น 37 บาทต่อลิตรทันที จากราคาปัจจุบัน 32 บาทต่อลิตร และต้องมาพิจารณาว่ากองทุนน้ำมันฯ จะเข้ามาช่วยอย่างไรได้บ้าง

นายพรายพล คุ้มทรัพย์ อดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า รัฐบาลจะต้องนำบัญชี-การเงินของกองทุนน้ำมันฯ และบัญชีการลดภาษีดีเซลมาชั่งน้ำหนักดูให้ดีว่า หากต่อมาตรการลดภาษีออกไปจะกระทบต่อรายได้ประเทศมากน้อยแค่ไหน ส่วนตัวมองว่าหากรัฐบาลไม่ต่อมาตรการลดภาษีการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลควรจะทะยอยปรับขึ้นครั้งละ 1 บาท ไม่ควรปรับขึ้นครั้งเดียว 5 บาท

ทั้งนี้ มาตรการการลดภาษีดีเซลที่ผ่านมารวม 7 ครั้ง กระทบรายได้รัฐ 158,000 ล้านบาท