เปิดคำพูดสุดท้าย หนูน้อย 6 ขวบ ก่อนจากไป เหตุพายุถล่มอาคารโดมพังทับครู-นักเรียน
วันที่ 23 พ.ค.2566 เจ้าหน้าที่โยธาธิการและผังเมืองพิจิตร พร้อมด้วยตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบโดมหลังคาอาคารเอนกประสงค์ที่พังลงมาทับจนมีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นจะนำข้อมูลจากการตรวจสอบเข้ารายงานถึงความแข็งแรงขอโครงสร้าง ที่สร้างขึ้นเองจากเงินที่บริจาค ในส่วนผู้เสียชีวิตมีทั้งหมด 7 รายและล่าสุดมีผู้ประสบเหตุเข้ารักษาตัวที่ 8 ราย ที่โรงพยาบาลพิจิตร 5 ราย และโรงพยาบาลสามง่าม 3 ราย ซึ่งอาการทั้ง 8 รายพ้นขีดอันตราย มีเพียงผ่าตัดแขนที่ถูกโครงสร้างเหล็กทับ ขณะที่นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ ผู้ว่าราชการจังหวัด สั่งตรวจสอบโครงสร้างที่พังลง และตรวจสอบอาคารโครงสร้างทั้งหน่วยงานราชการและเอกชนให้มีความแข็งแรงเพื่อป้องกันเหตุซ้ำ
นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรระบุว่า "ทางจังหวัดพิจิตรได้ประกาศให้พื้นที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ประสพภัยพิบัติ เพื่อจะได้นำงบประมาณมาช่วยเหลือประชาชน เพราะนอกจากเหตุที่เกิดที่โดมโรงเรียนแล้ว ยังมีบ้านเรือนประชาชนอีกจำนวนมาก ความเสียหายจากวาตภัย ที่เกิดขึ้นพร้อมตั้งศูนย์ขอรับความช่วยเหลือจากภาคเอกชน เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบต่อไป พร้อมสั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่โยธาธิการและผังเมืองพิจิตร พร้อมด้วยตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ โดมหลังคาอาคารเอนกประสงค์ที่พังลงมาทับจนมีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ
เบื้องต้นจะนำข้อมูลจากการตรวจสอบเข้ารายงานถึงความแข็งแรงขอโครงสร้าง จึงอยากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตราย โดยขอให้ประชาชนป้องกันภัยในพื้นที่ที่ปลอดภัย หากเกิดพายุ โดยทางจังหวัดพิจิตรสั่งให้หน่วยงานตรวจสอบอาคารโครงสร้างทั้งหน่วยงานราชการ และเอกชนให้มีความแข็งแรงเพื่อป้องกันเหตุซ้ำ
น.ส.ศศิวิมล สงวนนามสกุล แม่ของเด็กชายโพธิวัฒน์ อายุ 6 ขวบ ที่เสียชีวิตระบุว่า ในช่วงเกิดเหตุเป็นเหตุการณ์ปกติ มีเพียงฝนตกลงมาเล็กน้อย ไม่นึกว่าจะรุนแรงจนทำให้เกิดเสียชีวิตขึ้น โดยคำพูดสุดท้ายระหว่างตัวเองกับลูกที่บอกว่า "ให้เหลือฮอทดอกกลับมาจากซ้อมบอลจะมากิน" เป็นคำพูดสุดท้าย
ขณะที่สำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัยพิจิตร รายงานสถานการณ์การเกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร จำนวน 408 หลังคาเรือน 3 ตำบล 16 หมู่บ้าน