วันที่ 20 พฤษภาคม 2566 ขณะที่ พ.ต.อ.รุ่ง ทองมนต์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ร่วมกับ พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.คลองลึก, พ.ต.ท.จิรพัฒน์ เขียวศิริ สว.ส.ทท.สระแก้ว (สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยวสระแก้ว) และกองร้อยทหารพรานที่1302 ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 13 สนธิกำลังร่วมกันเฝ้าตรวจและดักสกัดผู้ต้องหาที่มีหมายจับจะลักลอบเดินทางเข้า-ออก ประเทศไทย บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตามนโยบายสกัดเข้มด่านชายแดนทั่วประเทศของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประพัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม.

ต่อมาได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.สระแก้ว ว่าได้ตรวจพบชายสูงอายุชาวไทยเดินเท้าข้ามสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา จากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทย ที่บริเวณจุดคัดกรองอาคารผู้โดยสารขาเข้าราชอาณาจักร ด่าน ตม.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยไม่มีหนังสือเดินทางและเอกสารประจำตัวแต่อย่างใด จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ

จากการสอบถามทราบว่า ชื่อนายสุชิน อินทรักษ์ อายุ 61 ปี มี ภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านเลขที่ 24/2 ม.3 ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา จึงตรวจสอบในระบบฐานข้อมูลสารสนเทศ สตม. จึงทราบว่านายสุชิน เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ 49/2557 ลงวันที่ 31 ม.ค. 57 กระทำความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในรอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามความสมควรแก่พฤติการณ์

ซึ่งนายสุชิน รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง โดยรับว่าได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองยิงหลานชายตนเองจนเสียชีวิต ในพื้นที่ ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อช่วงเดือนมกราคม 2557 แล้วหลบหนีออกไปกัมพูชาทางชายแดน จ.ศรีสะเกษ ไปอยู่กินกับภรรยาใหม่ชาวเขมรนานถึง 9 ปี คิดถึงลูกหลานที่เมืองไทย จึงเดินทางมาที่ด่านพรมแดนปอยเปตฯ เพื่อลักลอบเข้าไทยแต่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้

จากนั้น เจ้าหน้าที่จึงนำมาลงบันทึกประจำวัน ก่อนควบคุมตัวไปส่งพนักงานสอบสวน สภ.เขาหินซ้อน จ.ฉะเชิงเทรา ดำเนินคดี ตามหมายจับของศาลต่อไป