เณรน้อยช้ำใจ ออมเงินกิจนิมนต์นานเกือบปีซื้อโทรศัพท์ใหม่ไว้ใช้เรียน โดนร้านมือถือแสบหลอกขายไอโฟนมือสองให้

เณรน้อยช้ำใจ ออมเงินกิจนิมนต์นานเกือบปีซื้อโทรศัพท์ใหม่ไว้ใช้เรียน โดนร้านมือถือแสบหลอกขายไอโฟนมือสองให้

วันที่ 16 พฤษภาคม 2566 เวลา 13.00 น. ที่ สภ.เมืองอุดรธานี น.ส.ปราริชาติ บุญประคม อายุ 43 ปี เดินทางข้ามจังหวัดมาจาก ต.โนนสะอาด อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.ชานนท์ โสทะโชติ รอง (สว.) สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ว่า ถูกร้านมือถือในบุ๊ทห้างดังในจ.อุดรธานีหลอกขายไอโฟนให้ อ้างเป็นมือใหม่แต่เมื่อนำไปใช้กลับเป็นไอโฟนมือสอง เครื่องมีปัญหาตลอด อยากจะมาแจ้งความให้ทางร้านรับผิดชอบ

น.ส.ปราริชาติ เปิดเผยว่า เมื่อเดือนก.พ.66 ที่ผ่านมา ตนและสามเณร ภูศิลป์ สีเหมิก อายุ 15 ปีซึ่งเป็นบุตรชาย ได้ไปซื้อโทรศัพท์มือถือที่ร้านแห่งหนึ่ง (ร้าน ที่ที่ ออน โมบาย) บนห้างสรรสินค้าเซนทรัลพลาซ่า อุดรธานี โดยตกลงซื้อโทรศัพท์ ยี่ห้อ ไอโฟน XS mAX 256 สีขาว ในราคา 13,300 บาท รหัส SU 353130101083234 APPLE phusil, seemerk@ lclud.com PW Max13042551 ซื้อกับพนักงานขายและเจ้าของร้านซึ่งเป็นผู้ชาย 2 คน และได้แจ้งกับพนักงานไปว่า อยากได้ไอโฟนเครื่องใหม่ เพื่อเอาไปให้ลูกชายที่บวชเป็นเณรเอาไปใช้เรียนที่บ้านเกิดจ.หนองบัวลำภู และทางเจ้าของร้านก็บอกว่ามีเครื่องใหม่ให้ลดให้ด้วยจากราคา 14,000 บาทเหลือ 13,300 บาท และยืนยันเป็นเครื่องใหม่ ตนและลูกชายที่เป็นเณรก็เชื่อตามเจ้าของร้านบอกว่า จึงตัดสินใจซื้อ แต่เมื่อลูกชายที่บวชเป็นเณรนำกลับไปใช้งานปรากฏว่า เครื่องเริ่มมีปัญหา เปิด-ปิดเอง เครื่องรวนตลอด จึงเอากลับไปที่ร้าน มาคราวนี้ทางร้านบอกว่าให้เอาโทรศัพท์มาซ่อม และทางร้านยังแจ้งกลับมาอีกว่าโทรศัพท์เป็นเครื่องมือสอง จึงแปลกใจว่า วันที่ซื้อขายกันทำไมบอกว่าเป็นเครื่องใหม่ เวลาโทรศัพท์เสียเครื่องรวนบอกว่าเป็นโทรศัพท์มือสอง จึงมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐานในการไกล่เกลี่ยเครื่องขอรับเครื่องใหม่หรือจะขอเงินคืนเพื่อไปซื้อเครื่องใหม่ที่ร้านอื่น

ก่อนมาแจ้งความได้ไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแล้ว ซึ่งทางศูนย์ก็แนะนำให้มาแจ้งความกับตำรวจเพื่อพิสูจน์ว่าโทรศัพท์มือ 1 หรือ มือ 2 ให้ได้เสียก่อน สำหรับเครื่องโทรศัพท์เครื่องนี้ตนและลูกเณรได้ออกเงินกันคนละครึ่งเพื่อซื้อโทรศัพท์ โดยลูกเณรได้เก็บมาจากการรับกิจนินิมนต์ได้มา 5 บาท 10 บาท ก็เก็บไว้เก็บเงินมาประมาณปีกว่าก็ยังไม่พอ จึงมาบอกแม่ให้ออกเงินช่วยคนละครึ่ง ซึ่งโทรศัพท์นั้นลูกเณรตั้งใจจะเอาไว้เรียน ก่อนทำการซื้อเราก็สอบถามหลายๆ ร้านว่าราคาเครื่องมือหนึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 14,000 บาท ระหว่างเดินดูตนก็ไปกดเงินส่วนลูกเณรก็เดินดูโทรศัพท์จึงไปถูกใจโทรศัพท์ร้านนี้ โดยลูกเณรบอกว่าร้านนี้เขาลดให้ เหลือ 13,300 บาท หลังจากซื้อไปแล้วโทรศัพท์ก็เปิดเองปิดเองไม่ค่อยดีและไม่กล้าบอกแม่ ตอนนี้เราต้องการให้ทางร้านคืนเงินให้และเอาเงินจำนวนนี้ไปซื้อโทรศัพท์จากร้านอื่น

ลูกชายที่เป็นสามเณรอยากได้โทรศัพท์ใหม่เพื่อเอาใช้เรียนในโรงเรียนพระ เก็บหอมรอมริบนานกว่าปี กว่าจะได้เงิน และรู้สึกเสียใจที่ร้านขายมือถือมาทำแบบนี้ ขอฝากไปถึงร้านโทรศัพท์อย่าทำแบบนี้กับลูกค้าคนอื่นอีก ร้านค้าควรจะมีความซื่อสัตย์กับลูกค้าด้วย ลูกค้าเขาก็อยากได้ของที่ดีมีคุณภาพไปใช้ ถ้าจะเอาโทรศัพท์มือสองไม่ให้เณรลูกชายนั่งรถจากจังหวัดหนองบัวลำภูมาซื้อของที่อุดรธานี แม่สามเณรพูดไปพร้อมน้ำตาคลอไปด้วย

ขณะที่สามเณรภูศิลป์ เปิดเผยว่า ผมอยากได้โทรศัพท์ใหม่เอาไว้ใช้เรียนที่โรงเรียนพระเณรฯ จึงคุยกับโยมแม่ลงขันกันซื้อก็เลยช่วยคนละครึ่ง เงินที่ได้ก็เป็นเงินที่เก็บหอมรอมริบจากรับกิจนิมนต์ พอซื้อได้มาได้เดือนกว่า เครื่องเริ่มมีปัญหา รวนตลอด บางครั้งก็ปิดและเปิดเครื่องเอง ก็ตกใจจึงให้แม่ไปถามที่ร้านเขาก็บอกว่าเป็นเครื่องมือสอง ก็ตกใจอยู่ไหนว่าทางร้านเป็นเครื่องใหม่ เสียดายที่ไม่ได้เครื่องใหม่มาใช้เรียน เพราะในโรงเรียนครูจะใช้มือถือประกอบในการเรียนด้วยทั้งสั่งงานหรือประชุมสาย ก็อยากให้ทางร้านรับผิดชอบเปลี่ยนเครื่องใหม่ หรือคืนให้ด้วยครับ เณรน้อยกล่าวตอนท้าย

ข่าวโดย นาริสา หลักทอง ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดอุดรธานี

เรียบเรียง ทีมข่าวสยามนิวส์

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ