หลวงพ่อแก้ว ถูกทิ้งริมป่าช้าเกือบ 50 ปี 7วันอธิษฐาน เกิดปาฏิหาริย์ ได้เลข 3 ตัวตรงๆ
วันที่ 30 เม.ย. 66 มีรายงานว่า พระมหารัตนากร เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ได้พบเจอพระพุทธรูปองค์ดังกล่าว จึงอธิษฐานว่าถ้าพระพุทธรูปองค์ดังกล่าวอยากจะมาประดิษฐานอยู่ภายในวัด ขอให้ดลจิตใจให้มีญาติโยมนำกลับมาบูรณะ จากนั้นไม่นานเพียงแค่ 7 วัน มีญาติโยมเข้ามาถวายสังฆทาน แล้วอยู่ ๆ ญาติโยมก็พูดว่าถ้ามีพระพุทธรูปอยากให้สร้างหรือซ่อม โยมมีลูกชายเป็นช่างปั้น ให้พระมหารัตนากร แจ้งความประสงค์ได้เลย
ทำให้พระมหารัตนากร ก็ได้เอ่ยปากว่าได้อธิษฐานไปเมื่อ 7 วันก่อนเอง จึงได้บูรณะพระพุทธรูปองค์ดังกล่าวจริง ๆ หลังจากนั้นจึงได้นิมนต์พระพุทธรูปดังกล่าวมาประดิษฐานไว้ที่วัด พร้อมทั้งทางญาติโยมก็ได้มารับเป็นเจ้าภาพบูรณะในเวลาเดียวกัน
พระมหารัตนากร กล่าวต่อว่า ในช่วงที่ทำสวนอยู่นั้น ในยามว่าง ทิดเหียน ซึ่งมีพรสวรรค์ในการปั้น จึงได้ออกแบบปั้นพระพุทธรูป ด้วยปูนซิเมนต์ ตามแบบแนวคิด ชื่อพระพุทธรตนโชติ (หลวงพ่อแก้ว) ทำการปั้นด้วยมืออยู่ในสวนยางพารา สร้างจนแล้วเสร็จจำนวน 2 องค์ ต่อมาได้ขายที่ดินสวนยางพาราดังกล่าวให้กับคนในพื้นที่ แล้วกลับไปอยู่บ้านเกิด และเสียชีวิตภายหลัง โดยเจ้าของที่ใหม่ก็ไม่ได้ทำลายพระพุทธรูปองค์ดังกล่าวแต่อย่างใด
ทั้งที่ได้ล้มยางพาราแล้วปลูกใหม่ทดแทนไปแล้ว อีกไม่นานได้มีชาวบ้าน ในพื้นที่ ต.แหลมสอม อ.ปะเหลียน ได้ฝันว่ามีพระพุทธรูปอยู่ข้างป่าช้า ใน ต.บ้าหวี จำนวน 2 องค์ จึงเดินทางไปตรวจสอบและพิสูจน์ตามฝัน ผลปรากฏว่ามีจริง ๆ จึงอัญเชิญ องค์เล็กไปบูชาที่วัดโคกมะขาม หรือวัดหาดเลา เพียงองค์เดียว จนเป็นที่เคารพบูชามาจนถึงปัจจุบัน ส่วนที่เหลืออีกหนึ่งองค์ ยังปล่อยทิ้งอยู่ในสวนยางพารา
หลังจากที่พระพุทธรูปดังกล่าวได้ถูกนำมาบูรณะและประดิษฐานภายในวัด ได้มีบรรดาญาติโยมและสาธุชนแห่กันเข้ามาจุดธูป เทียน นำดอกไม้ ไปวางยังหน้าพระพุทธรูปทันที และต่างขอพร ขอโชคลาภ โดยที่ส่วนใหญ่ต่างนำเอาอายุของพระพุทธรูปคือ 46 ปี และวันที่ในการนำพระพุทธรูปองค์ดังกล่าวมาประดิษฐานคือวันที่ 27 ตรงกับ ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 6 และบางรายถึงกับเห็นเลข 460 ซึ่งต่างก็นำไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล