เรียกได้ว่าเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ แล้วสำหรับวันเลือกตั้งครั้งใหญ่ที่จะถึงนี้ 14 พฤษภาคม 2566 ที่จะกำหนดอนาคตประเทศไทย และกำลังเป็นอีกหนึ่งบุคคลที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย สำหรับมือกฎหมายคนสำคัญระดับประเทศ แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นมีชื่อของนักการเมืองรุ่นเก๋าอย่าง พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รวมไทยสร้างชาติ

เมื่อวันที่ 18 เมษายน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้เปิดเผยนโยบายเรื่องบัตรสวัสดิการพลัส มีความเป็นมา จากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดิม ซึ่ง พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา ได้ดำเนินการไว้ เมื่อเราเอามาดำเนินการ หลังจากที่ลงไปพบพี่น้องประชาชน ส่วนใหญ่คนจะเรียกว่าบัตรลุงตู่ เราก็เลยใช้ภาษาง่ายๆ คุยกับชาวบ้านว่า บัตรลุงตู่ แต่ในทางที่เราทำนโยบายจาก กกต. เราไม่สามารถเรียกแบบนั้นได้ เราก็เลยเรียกว่าบัตรสวัสดิการพลัส ที่ว่าพลัสเพราะว่าแต่เดิม บัตรตัวนี้ ได้จัดรายจ่ายให้กับพี่น้องประชาชน ประมาณเดือนละ 200-300 ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติพี่น้องประชาชนเป็นรายคนไป

สำหรับ บัตรสวัสดิการพลัส จัดให้ได้ถึง 1,000 ที่ว่าพลัสคือเราได้ปรับขึ้นเป็น เดือนละ 1,000 และอีกประการที่สองคือ วงเงินฉุกเฉิน 10,000 บาท เมื่อเดือดร้อนฉุกเฉินสามารถกู้ยืมเงินจากธนาคารของรัฐได้ถึง 10,000 บาท ถ้ารวมแล้วบัตรนี้ จะช่วยเหลือประชาชนได้ถึง 58,000 บาท และที่สำคัญที่สุดคือนี่คือเงินจริงๆ ที่ประชาชนจะได้รับ

นโยบายของพรรคทำตามสิ่งที่ทำมาแล้ว เวลาเราบริหารประเทศก็จะมีเงินได้ที่ทยอยมาไม่ใช่อยู่ดีๆ จะเอาเงินงบประมาณมาทีเดียวหมด ของเราเป็นไปตามเงื่อนไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเงินการคลังและวินัยทางการเงินของประเทศที่ผานมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้วางรากฐานจนมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ

และระบบการเงินแล้ว ดังนั้นเราจึงรู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป เพื่อจะให้ประชาชนได้ประโยชน์ด้วย ไม่เสียวินัยทางการเงินการคลังและไม่กระทบภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และที่สำคัญที่สุดคือความเชื่อมั่นของต่างชาติที่มีกับเงินบาทและเศรษฐกิจไทย

ขอบคุณ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค

เรียบเรียง สยามนิวส์