เจ้าของพูลวิลล่า ยืนยันไม่ได้ปรับเงินลูกค้า

เจ้าของพูลวิลล่า ยืนยันไม่ได้ปรับเงินลูกค้า

เจ้าของพูลวิลล่า เตรียมฟ้องร้องดำเนินคดีเจ้าของคลิปแบกเป็ดยางขึ้นโรงพัก ทำให้ธุรกิจเสียชื่อเสียง หลังถูกกล่าวหาฉ้อโกง เอาเปรียบลูกค้า ยืนยันคืนเงินประกันครบตั้งแต่ตอนลูกค้าเช็กเอ้าท์ แต่ไม่เข้าใจทำไมถึงไปแจ้งความ แถมคู่กรณีไม่ยอมจบ ส่งข้อความมาข่มขู่ อ้างรู้จักคนใหญ่คนโต

ความคืบหน้า กรณี ผู้ใช้ TikTok รายหนึ่ง ได้โพสคลิป ขณะกำลังแบกเป็ดยางขึ้นไปบนสถานีตำรวจภูธรลาดหญ้า พร้อมบรรยายเหตุการณ์ภายในคลิปว่า พวกตนได้เดินทางมาพักที่พูลวิลล่าแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี แต่หลังจากกำลังจะเดินทางกลับนั้น ปรากฏว่า เจ้าของพูลวิลล่า ได้เรียกเก็บเงินค่าปรับ จำนวน 500 บาท โดยระบุว่า เป็นค่าปรับที่ทำเป็ดยางรั่ว แต่ทางกลุ่มลูกค้า ยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนทำให้เป็ดยางรั่วและในคลิปก็ยังเห็นเป็ดยางใช้งานได้ปกติ เมื่อตกลงกันไม่ได้ ทางกลุ่มลูกค้าจึงนำเอาเป็ดยางดังกล่าว มาที่สถานีตำรวจภูธรลาดหญ้า เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเป็นตัวกลางในการตัดสิน ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกเจ้าของพูลวิลล่า มาเจรจาพูดคุย และจบลงโดยที่ทางเจ้าของพูลวิลล่าไม่ติดใจเรียกค่าปรับ จำนวน 500 บาท และทั้งสองฝ่ายต่างแยกย้ายกันเดินทางกลับนั้น

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นางสาวกมลทิพย์ แป้นเฉาว์ อายุ 30 ปี เจ้าของพูลวิลล่าที่เป็นประเด็นอยู่ในตอนนี้ โดยนางสาวกมลทิพย์ ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว กลุ่มลูกค้าที่แบกเป็ดยางขึ้นโรงพักนั้น เป็นลูกค้าที่เดินทางเข้ามาพัก ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน เข้าพักเป็นเวลา 2 วัน คือในวันที่ 13 และ 14 เมษายน ก่อนจะเช็กเอ้าท์ในช่วงเช้าวันที่ 15 เมษายน โดยในระหว่างลูกค้าเช็กเอ้าท์ พนักงานได้ตรวจสอบความเรียบร้อยของทรัพย์สินในพูลวิลล่า และพบว่าเป็ดยางสีขาวมีอาการลมรั่วซึม จึงแจ้งให้ลูกค้าทราบ แต่ลูกค้าปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนทำ ซึ่งทางพูลวิลล่า ก็ได้คืนเงินมัดจำ จำนวน 2,000 บาทให้ครบเต็มจำนวน โดยไม่ได้หักเงินค่าปรับ แต่ปรากฏว่า ลูกค้ากลุ่มนี้กลับมีอาการไม่พอใจและต่อว่าทางพูลวิลล่า ว่าเอาเปรียบลูกค้า ก่อนจะนำเป็ดยางตัวดังกล่าวขึ้นรถและบอกว่าจะไปแจ้งความที่โรงพัก ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ตามในคลิปที่มีการแชร์กันอย่างกว้างขวาง ซึ่งเมื่อลูกค้าไปแจ้งความแล้ว ตำรวจได้เรียกผู้จัดการของพูลวิลล่าไปพบ และมีการพูดคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยทางตำรวจยังบอกว่าทางพูลวิลล่า สามารถเรียกเงินค่าเสียหายจากลูกค้าได้ เพราะก่อนเข้าพักมีการเซ็นเอกสารรับทราบถึงค่าเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นแล้ว แต่ทางผู้จัดการก็ยืนยันไม่เรียกร้องค่าเสียหายและขอให้จบเรื่องนี้ด้วยความยินยอมทั้งสองฝ่าย ก่อนจะแยกย้ายกันเดินทางกลับ

แต่ปรากฏว่า หลังกลับจากสถานีตำรวจภูธรลาดหญ้าไม่นาน กลุ่มลูกค้าได้นำคลิปไปโพสลงใน Tik Tok จนมีคนเข้ามาดูและคอมเม้นท์ต่อว่าทางพูลวิลล่าเป็นจำนวนมาก ทางตนเอง ซึ่งเป็นเจ้าของ เมื่อเห็นคลิปจึงได้ทักไปถามกับทางกลุ่มลูกค้า ว่าทำไมจึงลงคลิปที่สร้างความเสื่อมเสียให้กับทางพูลวิลล่าแบบนี้ แต่กลับถูกทางกลุ่มลูกค้าต่อว่าและส่งขอความมาข่มขู่ตลอดเวลา พร้อมอ้างว่ากลุ่มของลูกค้ารู้จักคนใหญ่ คนโตเยอะ ขอให้ทางพูลวิลล่าเตรียมตัวให้ดีว่าจะเจออะไรบ้าง แต่ทางตนก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร

ส่วนที่ออกมาให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว ก็เพราะอยากได้รับความเป็นธรรมและอยากชี้แจงข้อเท็จจริงให้สังคมได้รับรู้ ว่าตนทำธุรกิจด้วยความโปร่งใส ไม่ได้คิดจะเอาเปรียบลูกค้าอย่างที่ถูกกล่าวหา ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่มีปัญหานี้บอกว่าทำธุรกิจเป็นเจ้าของแพล่อง อยู่ในอำเภอศรีสวัสดิ์ เป็นคนเมืองกาญจน์เหมือนกัน จึงขอส่วนลดค่าที่พักคืนละ 2,000 บาท จากราคาเต็ม คืนละ 12,900 บาท เหลือเพียงคืนละ 10,900 บาท ซึ่งตนก็ลดให้ ดังนั้น ตนจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาเอาเปรียบลูกค้า โดยการอ้างว่าเป็ดยางลมรั่ว เพื่อจะเอาเงินค่าเสียหายเพียง 500 บาท อีกทั้ง เป็ดยางตัวดังกล่าวก็รั่วซึมจริง แต่ตนและลูกค้าก็ตกลงกันจบตั้งแต่ตอนเช็กเอ้าท์แล้ว ว่าจะไม่เรียกเงินค่าปรับและยังคืนเงินมัดจำให้ครบเต็มจำนวนด้วย จึงไม่เข้าใจว่า กลุ่มลูกค้าทำแบบนี้ทำไม คล้ายมีเจตนาจะดิสเครดิตสร้างความเสียหายให้กับธุรกิจของตน ซึ่งพูลวิลล่าของตนเปิดให้บริการมาเกือบหนึ่งปี มีลูกค้ามาใช้บริการเต็มทุกวันและไม่เคยมีปัญหาแบบนี้มาก่อน ซึ่งหลังจากนี้ จะได้ปรึกษากับทนายความว่า เรื่องนี้สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับพูลวิลล่าของตนอย่างมาก ดังนั้น จึงอาจต้องมีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้ที่โพสสร้างความเสียหายไปตามกฏหมาย

ข่าวโดย ปรีชา ไหลวารินทร์ ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัด กาญจนบุรี

เรียบเรียง สยามนิวส์

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ